ย่อ / ขยาย

สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
เคียงคู่ พัฒนา เพื่อความก้าวหน้าของประเทศ


การพาณิชย์ที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูขึ้นตามยุคสมัย เป็นเหตุให้มีบริษัทห้างร้าน สมาคมการค้าสาขาต่างๆ และผู้ประกอบธุรกิจการค้าชาวต่างชาติในประเทศไทยเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ยิ่งมีผู้ทำการค้ามากเท่าไหร่ เส้นทางสายพาณิชย์ก็ยิ่งมีความยากลำบากมากขึ้นเท่านั้น อีกทั้งยังปรวนแปรตามสภาพสังคมและการเมืองอยู่เสมอ เป็นเหตุให้ในปี 2497 รัฐบาลเริ่มตระหนักถึงความสำคัญในการจัดระเบียบการค้า เพื่อให้เศรษฐกิจเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศชาติได้โดยไม่ชะงักถอย เพราะข้อจำกัดอันเกิดจากการแข่งขันหรือการกีดกันทางการค้า ซึ่งหากมีการจัดระเบียบให้มีแบบแผนถูกต้องแล้ว ย่อมเปรียบเสมือนการแผ้วถางเส้นทางการค้าให้ราบรื่นและเศรษฐกิจสามารถรุดหน้าได้เต็มที่

แนวความคิดดังกล่าว ปรากฏผลเป็นรูปเป็นร่างในวันที่ 29 กันยายน 2497 เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการจัดตั้ง "สภาการค้า" ขึ้น เพื่อให้เป็นสถาบันกลางของนักธุรกิจทุกชาติทุกภาษาที่ประกอบธุรกิจในการนำสินค้าเข้า ส่งสินค้าออก ผู้ประกอบการผลิต การอุตสาหกรรม การธนาคาร การประกันภัย การขนส่ง และการค้าอื่น ๆ นอกจากนี้ สภาการค้ายังทำหน้าที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ในการดำเนินการส่งเสริมและจัดระเบียบการค้า ตลอดจนให้ข้อคิดเห็น คำปรึกษา ข้อเท็จจริง และคำแนะนำแก่รัฐบาลในเรื่องที่เกี่ยวกับการค้า ประสานงานระหว่างผู้ประกอบการค้ากับทางราชการ ประสานและส่งเสริมความสามัคคี และระงับข้อพิพาทระหว่างผู้ประกอบการค้าด้วยกัน หลังจากนั้น คณะกรรมการฯ ได้จัดทำระเบียบข้อบังคับของสภาการค้า และได้จดทะเบียนเป็นสมาคมภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2498

นั่นคือจุดเริ่มต้นของ “สภาการค้า” ที่มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็น “สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย” ในปัจจุบัน ตลอดเส้นทางกว่า 50 ปีที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยยืนหยัดทำบทบาทหน้าที่เคียงคู่หอการค้าไทยมาโดยตลอดนั้น มีเหตุการณ์และภาวะอุปสรรคทั้งจากภายนอกและภายในเกิดขึ้นมากมาย แต่ละยุคสมัยต้องก้าวย่างอย่างระมัดระวัง เสมือนการคัดท้ายนาวาพาณิชย์ ให้มุ่งหน้าตรงตามพันธกิจที่วางเป้าหมายเอาไว้