สุทธิพงษ์ - สนั่น จับมือ เปิดตัว “นครพนม โมเดล” ตั้งเป้าโต GPP ปีละ 7% ยกระดับสู่เมืองหลักที่ยั่งยืน

376976_0.jpg
376977_0.jpg
377015_0.jpg
377013_0.jpg
376943_0.jpg
376983_0.jpg
376985_0.jpg

(วันที่ 5 เมษายน 2567 ณ จังหวัดนครพนม)  ตามที่ หอการค้าฯ ได้มีการหารือร่วมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเกี่ยวกับประเด็นการยกระดับเมืองนำร่องให้เป็นเมืองหลัก โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว พัฒนาเศรษฐกิจ และลดความเหลื่อมล้ำในมิติต่าง ๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว และได้แต่งตั้ง “คณะกรรมการขับเคลื่อนการยกระดับเมือง และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน” ขึ้น โดยมอบหมายให้นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าว

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้จังหวัดวางแนวทางการขับเคลื่อนฯ ในการพิจารณาศักยภาพของกลุ่มจังหวัดในทุกมิติให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) สำหรับพื้นที่นําร่องยกระดับเมือง ประกอบด้วย 10 จังหวัด ได้แก่ แพร่ ลําปาง ราชบุรี นครศรีธรรมราช ตรัง นครพนม ศรีสะเกษ นครสวรรค์ จันทบุรี และกาญจนบุรี ซึ่งกระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบในการกํากับดูแล กลุ่มจังหวัด/จังหวัด พร้อมให้การสนับสนุนการดําเนินงานของคณะกรรมการฯ จังหวัด
นําร่อง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผลักดันการขับเคลื่อนระดับพื้นที่ผ่านกลไกคณะกรรมการ ร่วมภาครัฐและเอกชนจังหวัด (กรอ.จังหวัด) เพื่อให้เกิดความร่วมมือทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคส่วนอื่นๆ ให้บรรลุวัตถุประสงค์การขับเคลื่อนฯ ต่อไป

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การยกระดับ 10 จังหวัด เป็นแนวคิดริเริ่มที่หอการค้าฯ ร่วมกับภาคธุรกิจที่มีศักยภาพผลักดันจังหวัดใหม่ ๆ ขณะที่ประเทศไทยกำลังเจอความท้าทายทั้ง Technology War - Green War - Talent War ดังนั้น จำเป็นต้องเร่งสร้างการเติบโตจากภายในประเทศด้วยการกระจายความเจริญและยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่นให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งปี 2566 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยเติบโตเพียง 1.9% ขณะที่ GPP จ.นครพนม สามารถเติบโตได้ถึง 5% และมีเป้าหมายดัน GPP ให้เติบโต 7% ต่อเนื่อง 5 ปี

“สิ่งที่เราเห็นถึงโอกาสและศักยภาพของจังหวัดนครพนม คือ Trade & Travel โดยการยกระดับการท่องเที่ยวที่สามารถเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง สปป.ลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของท่านนายกฯ ในการผลักดันให้ไทยกลายเป็น Tourism Hub เชื่อมโยงกับภูมิภาค สำหรับด้านการยกระดับ SMEs มีกลุ่มผ้าไหมของจังหวัดที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ หอการค้าฯ มีแผน MOU ความร่วมมือกับประเทศอิตาลี ที่ถือเป็นประเทศผู้ผลิตแฟชั่นชั้นนำของโลก ในการช่วยพัฒนาผ้าไหมไทยให้มีเส้นใยที่เหมาะกับการออกแบบ และต่อยอดผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรม ตอกย้ำ Soft power ไทย ให้สามารถขยายตลาดที่มีกำลังซื้อสูงจากต่างประเทศได้ ส่วนด้านการเกษตร หอการค้าฯ ยังมีการหารือกับ ประเทศ Netherland ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านเกษตร และส่งออกสินค้าเกษตร เป็นอันดับ 2 ของโลก เพื่อช่วยยกระดับการเกษตรไทยให้มีผลผลิตและรายได้สูงขึ้น โดยหอการค้าไทย มีโครงการนำร่อง SMEs ด้านเกษตรและอาหาร ทำ Sand box เพื่อนำ Food Valley Model มาขยายผลที่ประเทศไทย ต่อไป” นายสนั่นกล่าว

ด้าน นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และ นายธนพัต ทีฆธนานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม ได้นำเสนอศักยภาพและเป้าหมายของจังหวัด สู่การเป็น Restination สู่เมืองหลักแห่งการพักผ่อน นอกเหนือจากการตั้งเป้า GPP 7% ต่อเนื่องตลอด 5 ปี แล้ว ยังเน้นการเพิ่มรายได้ต่อหัวของประชาชน 5% ต่อปี เพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยว จาก  5,000 ล้านบาท ให้เติบโตถึง 8,700 ล้านบาท ภายในปี 2571 ขณะที่ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยว จำนวน 2,500,000 คน ให้เพิ่มขึ้นเป็น 3,680,000 คน ภายในปี 2571 โดยใช้กลยุทธ์ 5 สร้าง ได้แก่ 1) สร้างตัว (CITY FACILITIES) ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานมุ่งสู่เมือง Net Zero โดยมี QUICK WIN PROJECT ได้แก่ โครงการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองนครพนม 3 จุด ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนที่จะช่วยให้สภาพแวดล้อม ระบบนิเวศ และคุณภาพชีวิตของชาวนครพนมดีขึ้น รวมถึงโครงการอื่น อาทิ โครงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและการสื่อสาร โครงการ Mekong River Eye, การพัฒนาถนนคนเดิน, จัดสร้างหอชมเมือง เป็นต้น 2) สร้างภาพ (Branding) ผ่านโครงการสร้างอัตลักษณ์เมือง (DNA) 3) สร้างเรื่อง ODOD (One Day One District) สร้างคุณค่า เติมเต็มเรื่องราว ให้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นรายอำเภอ  4) สร้างชื่อ ต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่ระดับประเทศ ยกระดับอำเภอนาหว้า หรือ นาหว้าโมเดล ผ่านการจัด NAKHONPHANOM FASHION WEEK หรือ Co-Branding กับ Designer ทีมที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย 5) สร้างโลก (CITY EVENTS) ยกระดับกิจกรรมต่าง ๆ ของจังหวัดนครพนม ภายใต้แนวทาง FAITH CITY (เมืองแห่งศรัทธา) ชูเอกลักษณ์ท้องถิ่น และสร้างภาพจำให้เกิดการเข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่อง เช่น ผลักดันเทศกาลไหลเรือไฟโลก เป็นต้น

นายญนน์ โภคทรัพย์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า แนวทางการยกระดับจังหวัด ผ่าน 3 แกนหลักสำคัญ ได้แก่ 1) Unlock Potential ทั้งการสร้าง Landmark (Tourism, Cultural, and Food) ส่งเสริมเอกลักษณ์ อัตลักษณ์วัฒนธรรมไทยที่ดี (Thainess) เชื่อมโยงโครงการ One Family One Soft Power (OFOS) การสร้างและยกระดับระบบคมนาคมพร้อมเชื่อมจังหวัดใกล้เคียง และเร่งการส่งเสริมการลงทุน และ Incentive ในพื้นที่ 2) การสร้างสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดี ทั้งการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค (น้ำประปา ไฟฟ้า Speed Internet) ระบบสาธารณสุขและเทคโนโลยีและการสื่อสารที่ทันสมัยทั่วถึง การสร้างเมืองรองเป็นโมเดลต้นแบบเมือง Net Zero รวมถึง ระบบจัดการขยะให้ครบวงจรด้วยระบบ (Reduce, Reuse, Recycle) และ 3) การช่วยเหลือเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ด้วยการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยให้ทั่วถึง เพิ่มรายได้ให้ SMEs (ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและเพิ่มมูลค่าของสินค้า) มีมาตรการส่งเสริมให้คนเก่ง (Talent) ที่เป็นคนไทยกลับสู่ภูมิลำเนาและแรงงานศักยภาพสูงชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในพื้นที่ และการส่งเสริมการจ้างงานเฉพาะ ทั้งคนพิการ และกลุ่มผู้สูงอายุในพื้นที่

“ทั้งนี้ คณะกรรมการขับเคลื่อนการยกระดับเมือง และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีกำหนดลงพื้นที่ 9 จังหวัดนำร่องที่เหลือ เพื่อสรุปแนวทางการขับเคลื่อนจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนรายใหญ่ พร้อมสนับสนุนการลงทุน และการจ้างงาน เช่นเดียวกับ กลุ่มเซ็นทรัลที่ให้การสนับสนุน จ.นครพนม การทำงานร่วมกันกับผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนราชการ และเอกชนในพื้นที่ ภายใต้แนวทาง Connect the Dots ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เหมือน “ทีมนครพนม” ที่พร้อมจะเติบโตสู่การเป็นเมืองหลักที่ยกระดับรายได้และความเป็นอยู่ของประชาชนให้สูงขึ้นในอนาคตอันใกล้ต่อไป” นายสนั่น กล่าวทิ้งท้าย

 

สำหรับการลงพื้นที่ จ.นครพนมในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายมงคล วิมลรัตน์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายญนน์ โภคทรัพย์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย พร้อมผู้แทนภาครัฐและเอกชนในพื้นที่

 

ข่าวอื่นๆ