ABI 3 พิธีปิด Class International Market Social Commerce And Trends-Tools
วันที่ 30 ก.ค.68 พิธีมอบใบประกาศนียบัตรปิดโครงการ ABI 3: Agropreneur Business Incubator Program ณ หอการค้าไทย ห้อง Activity Hall
เปิดความรู้ต่อเนื่องด้วย Class International Market กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญากรณีศึกษาและแนวทางป้องกัน โดยคุณภเชศ จารุมนต์ นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ทรัพย์สินทางปัญญาคือสิ่งที่ปัญญาสร้างสรรค์ขึ้นมาและสามารถเป็นทรัพย์สินได้. เป็นกรอบกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองความคิดสร้างสรรค์และมีความสำคัญต่อการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ.
ประเภทของทรัพย์สินทางปัญญาทรัพย์สินทางปัญญาหลัก 4 ประเภท ได้แก่
1. เครื่องหมายการค้า (Trademark)
- คือชื่อเรียกสินค้า/บริการ.
- การตั้งชื่อเครื่องหมายการค้าต้อง "ไม่ห้าม! ไม่ซ้ำ! ไม่สื่อ!"
- ไม่ห้าม: ต้องไม่มีคำต้องห้ามตามกฎหมายไทย เช่น ชื่อหรือตราที่เกี่ยวข้องกับพระองค์เจ้า หน่วยงานราชการ หรือคำที่ไม่สุภาพ.
- ไม่ซ้ำ: ต้องไม่ซ้ำกับผู้อื่น หรือซ้ำกับเครื่องหมายการค้าที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว. ควรตรวจสอบที่ฐานข้อมูลของกรมทรัพย์สินทางปัญญาเท่านั้น.
- ไม่สื่อ: ต้องไม่สื่อถึงสินค้าอย่างตรงไปตรงมา แต่ต้องเป็นคำที่แสดงลักษณะพิเศษเฉพาะตัว.
- อายุความคุ้มครอง 10 ปีนับแต่วันที่ยื่นจด และสามารถต่ออายุได้ไม่จำกัด. "จดที่ไหน คุ้มครองที่นั่น".
- มีระบบจดทะเบียนระหว่างประเทศ (Madrid System) เพื่ออำนวยความสะดวก.
- หัวใจสำคัญของการคิดชื่อเครื่องหมายการค้าคือ "ความคิดสร้างสรรค์" ที่ต้องโดดเด่น น่าสนใจ และมีความหมายที่น่าจดจำ.
2. สิทธิบัตร (Patent)
- คุ้มครองการประดิษฐ์ (Invention) โครงสร้างภายในหรือกลไกของผลิตภัณฑ์ (Products) รวมถึงกรรมวิธี (Processes) ในการผลิต การรักษาหรือปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์.
- การประดิษฐ์ที่ขอรับสิทธิบัตรต้อง "ใหม่ในโลก ซับซ้อน และใช้ได้จริง".
3. อนุสิทธิบัตร (Petty Patent)
- คุ้มครองงานประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นใหม่ เป็นการคิดค้นดัดแปลงเพียงเล็กน้อยแต่มีประโยชน์.
- ต้องเป็น "ประดิษฐ์ใหม่ ไม่ซับซ้อน และให้ประโยชน์มากขึ้น".
- ผู้ขอจะต้องเลือกว่าจะขอรับความคุ้มครองจากสิทธิบัตรการประดิษฐ์ หรืออนุสิทธิบัตร อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถยื่นขอพร้อมกันได้.
4. สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Design Patent)
- คุ้มครองรูปร่าง ลักษณะภายนอก รูปทรง หรือสีของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างไปจากเดิม และยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีใช้แพร่หลายในประเทศ.
- เป็นทั้งเครื่องมือและกลยุทธ์ในการสร้างความได้เปรียบทางการตลาด.
- มีอายุคุ้มครองสูงสุด 10 ปีนับตั้งแต่วันยื่นคำขอ และเมื่อหมดอายุถือว่าการออกแบบนั้นเป็นของสาธารณะ.
การป้องกันทรัพย์สินทางปัญญาไม่ใช่เรื่องยาก หากมีการเตรียมความพร้อมและมีความรู้ความเข้าใจในด้านนี้อย่างเพียงพอ การป้องกันที่ดีจะช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นและมีความมั่นคง
นช่วงบ่ายผู้ประกอบการได้เรียนรู้ด้าน "Social Commerce Trends & Tools" โดย คุณธัญญ์นิธิ อภิชัยโชติรัตน์ นักการตลาดดิจิทัลยอดเยี่ยมของเอเชีย 2020 Co-Founder Small Worldfor Kids Co., Ltd. Facebook Alpha Tester,LINE Certified Coach Social Commerce โดยเน้น 4 หัวใจหลัก หรือ 4C ได้แก่ Content, Commerce, Customer, และ Collaboration
1. CONTENT: SHORT VERTICAL VDO (คอนเทนต์: วิดีโอแนวตั้งแบบสั้น)
- REAL (จริงใจ): เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องปั้นแต่งมาก ใช้ภาษาเหมือนเล่าให้เพื่อนฟัง ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ
- AUTHENTIC (ไม่เหมือนใคร): สร้างเอกลักษณ์ที่ชัดเจน แตกต่างในแบบของตัวเอง หาจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครให้เจอ และมีการย้ำซ้ำให้จดจำ
- DYNAMIC (ฉับไว): เข้าสู่ประเด็นภายใน 3-5 วินาทีแรก กระชับ เข้าใจง่าย ใช้น้ำเสียงหลายระดับ และเปลี่ยนฉากทุกๆ 6 วินาที
- ความยาว 1 นาที: ความยาวไม่เกิน 60 วินาทีจะดีที่สุด
2. CUSTOMER 360 DEGREE (ลูกค้า 360 องศา)
- ประกอบด้วย CRM, CDP, และ CEP เพื่อรักษาสัมพันธ์, เก็บทุกรายละเอียด, และเรียกลูกค้ากลับมา
- CRM (Customer Relationship Management): การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า เช่น บัตรสมาชิกหรือการรับประกันสินค้า
- CDP (Customer Data Platform): การเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งในทุกมิติ
- CEP (Customer Engagement Platform): การเรียกลูกค้าให้กลับมา เช่น การส่งการ์ดขอบคุณ, การขอรีวิวพร้อมรางวัล, การชวนเพื่อน, และส่งส่วนลดพิเศษในเดือนเกิด โดยใช้ LINE OA: STEP MESSAGE
3. LIVE COMMERCE (ไลฟ์คอมเมิร์ซ)
- การไลฟ์ขายของที่ลูกค้าสามารถหยิบสินค้าลงตะกร้าได้ทันที
- เน้นการจัดฉาก, เครื่องแต่งกาย, และการกระตุ้นการซื้อด้วยอารมณ์
- สามารถใช้เครื่องมืออย่าง Kalodata.com ในการหาข้อมูลและเทรนด์จากคู่แข่ง
4. COLLABORATION WITH AFFILIATE MARKETING (การร่วมมือกับการตลาดแบบพันธมิตร)
- การตลาดแบบ "ป้ายยา" ที่เน้นการให้คนอื่นพูดถึงแบรนด์
- มีแพลตฟอร์มที่รองรับ Affiliate Program เช่น Shopee Affiliate Program (Influencer Program และ Social Partner Program) และ Lazada Affiliate Program
- หัวใจสำคัญคือ แบรนด์พูด 100 ครั้ง ไม่เท่ากับมีคนพูดถึงแบรนด์ 100 คน
Key Points Take Away (ประเด็นสำคัญที่ควรนำไปใช้):
- ดูเทรนด์เพื่อสร้าง CONTENT ให้ตรงกับกระแสหรือสิ่งที่ลูกค้าอยากรู้
- ใช้ในการเขียน CAPTION หรือใส่ HASHTAG เพื่อเพิ่มการมองเห็นโพสต์
- สามารถสอดแนมโฆษณาของคู่แข่งได้โดยใช้ Facebook Ad Library (เกี่ยวกับความโปร่งใส > ดูทั้งหมด > โฆษณาจากเพจ > คลังโฆษณา)
เรียกได้ว่าจัดเต็มครบจับมือลองทำทุก Ad กันอย่างครบถ้วนเชื่อได้ว่าผู้ประกอบการจะนำความรู้ในคลาสนี้ไปปรับใช้และเพิ่มยอดขายได้อย่างแน่นอน
