Smart to Know: 3 วิธีการบริหารเงินสดให้คล่องตัว

          ในการทำธุรกิจนั้น “การบริหารเงินสด” เป็นปัจจัยที่ช่วยให้ธุรกิจมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ แต่ก็มีหลายธุรกิจที่กำลังประสบภัยการเงิน ที่ถึงแม้จะขายดีแต่กลับไม่มีเงินสดหมุนเวียนเพียงพอ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น และเราจะมีวิธีบริหารจัดการอย่างไร เพื่อเป็นส่วนช่วยให้เจ้าของธุรกิจจัดการเงินสดได้ดียิ่งขึ้น

 

การบริหารเงินสดคืออะไร

          บริหารเงินสด คือ การจัดการกับรายรับรายจ่ายของธุรกิจ เพื่อให้สามารถบริหารสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ “เงินสดขาดมือ หมุนเงินไม่ทัน” เพื่อให้เจ้าของกิจการมั่นใจได้ว่ามีเงินเพียงพอสำหรับชำระหนี้ หรือดำเนินการต่าง ๆ เช่น การจ่ายเงินเดือนพนักงาน รวมไปถึงการนำไปลงทุนต่อยอดพัฒนาธุรกิจให้เติบโต ซึ่งวิธีการบริหารเงินสดสามารถทำได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่การตรวจสอบเงินเข้าเงินออกอย่างใกล้ชิด วางแผนการชำระเงิน หรือการบริหารเงินทุนที่จะเข้ามาหมุนเวียนในธุรกิจ

          เพราะ “เงินสด” เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงธุรกิจให้ดำเนินการต่อได้ ถ้าธุรกิจขาดการบริหารเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ อาจทำให้เงินขาดมือ ไม่มีเงินจ่ายหนี้ ไม่มีเงินจ่ายลูกน้อง ซึ่งปัญหานี้หากปล่อยไว้อาจทำให้จัดการเงินไม่ทันเป็นงูกินหาง และอาจเป็นจุดจบของธุรกิจได้เลย ดังนั้น เพื่อให้ไม่เกิดปัญหานี้กับธุรกิจ การบริหารเงินสด จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เจ้าของกิจการทุกคนควรรู้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา


7 สัญญาณเตือน “ธุรกิจเริ่มเสี่ยงเงินไม่พอใช้”

          ปัญหาเงินขาดมือของธุรกิจ มักมาพร้อมกับสัญญาณเตือนต่าง ๆ ลองดูสัญญาณเตือนภัยเสี่ยงเงินช็อตของธุรกิจเหล่านี้ ซึ่งสามารถนำไปเช็คสุขภาพการเงินของธุรกิจได้

สัญญาณเตือนธุรกิจ แปลว่า / ความหมาย
1. ต้องยืมเงินส่วนตัวมาช่วยธุรกิจบ่อย หมุนเงินไม่ทัน รายจ่ายเกินรายรับ หรือระบบเงินสดไม่พอใช้
2. ยอดขายเข้า แต่เงินสดลดลง กระแสเงินสดไม่สัมพันธ์กับยอดขาย อาจเก็บเงินลูกค้าไม่ได้ หรือจ่ายออกเกินตัว
3. ลูกค้าค้างจ่ายบ่อย หรือเกินกำหนดบ่อยครั้ง เงินสดรับเข้าช้ากว่าที่ควร ธุรกิจเริ่มขาดสภาพคล่องชั่วคราว
4. ต้องจ่ายเจ้าหนี้ช้า หรือขอขยายเวลา มีปัญหากระแสเงินสดระยะสั้น อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของธุรกิจ
5. ไม่รู้ว่าเดือนนี้ใช้เงินไปกับอะไรบ้าง ขาดการควบคุมค่าใช้จ่าย ไม่มีระบบติดตามการเงินที่ชัดเจน
6. ไม่มีเงินสำรองเผื่อเหตุฉุกเฉิน เสี่ยงสูง หากยอดขายตกหรือมีเหตุไม่คาดคิด จะขาดเงินหมุนทันที
7. ไม่มีรายงานสภาพคล่อง (Cash Flow Report) ตัดสินใจจากความรู้สึก ไม่ใช่จากข้อมูลจริง เสี่ยงบริหารผิดพลาด

 


3 วิธีการบริหารเงินสดให้คล่องตัว สำหรับเจ้าของธุรกิจ

          การบริหารเงินสดให้คล่องตัวสำหรับเจ้าของธุรกิจ สามารถทำได้หลายวิธี แต่ในบทความนี้เราหยิบ 3 หัวใจสำคัญของการบริหารเงินสด ที่จะช่วยควบคุมสภาพคล่องของธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น 

1. บริหารสินค้าคงคลัง (Inventory): เปลี่ยน “ของ” ให้เป็น “เงิน” ไวที่สุด

          ปัญหาเงินสดขาดมือ อาจก่อตัวตั้งแต่ในโกดังสินค้า เพราะหากไม่สามารถบริหารสินค้าคงคลัง (Inventory) ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็จะกลายเป็นต้นทุนที่จมอยู่ในสต๊อก การบริหารสต๊อกสินค้าให้สามารถขายออกได้ไวที่สุด ไม่ให้เกิดสินค้าค้างสต๊อก (Dead Stock) ก็เป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจได้ 
          1.1 วิเคราะห์ข้อมูลการขาย (Sales Data Analysis) การใช้ข้อมูลช่วยให้จัดการในด้านการวางแผนการขายสินค้าดียิ่งขึ้น ผู้ประกอบการสามารถดูข้อมูลย้อนหลัง นำมาวิเคราะห์หาสินค้าขายดีเพื่อใช้ในการจัดลำดับความสำคัญในการสั่งซื้อสินค้า ไปจนถึงการสต๊อกสินค้าล่วงหน้าได้อย่างเหมาะสม ลดโอกาสเกิดเหตุการณ์สินค้าขายไม่ออกจนค้างสต๊อก นอกจากนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลยังสามารถต่อยอดเป็นการวางแผนการตลาด เจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด

          1.2 ใช้ระบบ เข้าก่อน-ออกก่อน (First-In, First-Out) อีกหนึ่งเคล็ดลับที่บางท่านอาจคุ้นกันในชื่อ FIFO คือการบริหารสต๊อกสินค้าด้วยการเลือกขายสินค้าที่ใกล้วันหมดอายุ หรือมีความเสี่ยงตกรุ่นก่อน หากไม่มีการบริหารตรงนี้ อาจทำให้ทั้งสองกลายเป็นสินค้าที่ถูกลืม และกลายเป็นเงินทุนจมเปลี่ยนเป็นยอดขายไม่ได้เลยนั่นเอง

          1.3 เจรจาต่อรองกับซัพพลายเออร์ การสร้างคอนเนกชันที่ดีกับซัพพลายเออร์หลาย ๆ เจ้าที่ต้องทำงานร่วมกัน นับว่าเป็นกลยุทธิ์สำคัญสำหรับธุรกิจเลยก็ว่าได้ และในการบริหารสินค้าก็อาจช่วยในเรื่องการต่อรองขอเครดิตเทอมที่นานขึ้น หรือส่วนลดการสั่งซื้อสินค้า ที่ช่วยให้คุณมีเวลาจัดการกับสินค้าในคลังก่อนจะถึงรอบจ่ายเงินได้

 

2. ติดตามลูกหนี้ (Accounts Receivable) อย่างใกล้ชิด: เร่งเก็บเงินเข้ากระเป๋า

          ยอดขายบนกระดาษไม่มีความหมาย ถ้าเปลี่ยนมาเป็นเงินจริงไม่ได้ และการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าหลายครั้งก็เป็นปัญหาใหญ่ของธุรกิจเช่นกัน ดังนั้น การจัดการกับลูกหนี้การค้าอย่างเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพ ก็เป็นอีกแรงที่ช่วยดูแลสภาพคล่องของธุรกิจได้ โดยมีวิธีการบริหารติดตามลูกหนี้การค้าได้ดังนี้

          2.1 กำหนดนโยบายสินเชื่ออย่างชัดเจน การกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการเงินควรต้องทำอย่างชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น เป็นข้อกำหนดร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวงเงินเครดิต และระยะเวลาชำระเงิน ทำให้ธุรกิจสามารถบริหารเงินสดได้ตามแผนที่วางไว้ นอกจากนี้อีกหนึ่งเคล็ดลับอาจพิจารณาให้ส่วนลดสำหรับลูกหนี้ที่ชำระก่อนกำหนด เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ลูกหนี้รีบชำระเร็วขึ้น

          2.2 ออกใบแจ้งหนี้ทันทีและตรวจสอบให้ถูกต้อง ใบแจ้งหนี้เป็นเอกสารสำคัญเลยก็ว่าได้ ถ้าส่งมอบสินค้าหรือให้บริการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรรีบออกใบแจ้งหนี้ให้ทันทีเพื่อเรียกเก็บเงินจากลูกค้า นอกจากนี้ จำเป็นต้องตรวจสอบความถูกต้องให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้นอาจเกิดปัญหาตามมาที่ส่งผลต่อการชำระเงินที่ล่าช้าได้ด้วย

          2.3 ติดตามหนี้อย่างเป็นระบบ หากลูกค้าชำระหนี้ล่าช้า ควรมีขั้นตอนการติดตามหนี้อย่างเป็นระบบ เช่น การส่งข้อความ หรืออีเมลเพื่อทวงถามแจ้งเตือนอย่างสุภาพ แต่ถ้าหากลูกหนี้ยังไม่ชำระเงินตามที่กำหนดก็อาจเริ่มต้นโทรติดตามอย่างสม่ำเสมอได้

 

3. บริหารเจ้าหนี้ (Accounts Payable) อย่างมีกลยุทธ์: ยืดเวลาจ่าย แต่ไม่เสียเครดิต

          นอกจากตามเงินจากลูกหนี้แล้ว ในการบริหารเงินสด การจัดการวางแผนกับเจ้าหนี้ก็เป็นขั้นตอนที่ช่วยให้สามารถบริหารจัดการกับสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเช่นกัน เพราะถ้าจ่ายเร็วเกินไปก็ทำให้ขาดเงินสดหมุนเวียน แต่จ่ายช้าก็อาจเสียเครดิต ดังนั้น การบริหารจัดการเจ้าหนี้อย่างชาญฉลาดก็ช่วยรักษาสมดุลในเรื่องนี้ได้

          3.1 ใช้ประโยชน์จากเครดิตเทอมเสมอ การจ่ายเงินให้ใกล้กับวันที่ได้รับเครดิตเทอมมากที่สุดสามารถช่วยให้บริหารเงินสดได้ดียิ่งขึ้น เช่น ได้รับเครดิตเทอม 30 วัน ก็สามารถจ่ายเงินในวันที่ 29 เพื่อให้ธุรกิจมีเงินสดหมุนเวียนไว้ในมือเผื่อมีกรณีต้องใช้เงินฉุกเฉิน

          3.2 วางแผนการชำระเงินล่วงหน้า การวางแผนล่วงหน้ายังเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจมาเสมอ และในเรื่องของการบริหารเงินสดก็เช่นกัน คุณสามารถวางแผนการชำระเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อจัดลำดับความสำคัญของเจ้าหนี้แต่ละราย เช่น ต้องจ่ายใครก่อน-หลัง เป็นจำนวนเท่าไหร่ เพื่อให้มีเงินสดในมือพอจ่ายหนี้เมื่อถึงวันครบกำหนด

          3.3 สื่อสารกับเจ้าหนี้อย่างสม่ำเสมอ ถ้าจากการวิเคราะห์เงินสดในมือและวางแผนล่วงหน้าแล้วพบว่าอาจมีเงินไม่เพียงพอสำหรับการชำระหนี้ให้ได้ตามกำหนด จำเป็นต้องสื่อสารกับเจ้าหนี้ไว้ล่วงหน้า เพื่อทำการขอขยายเวลาชำระหนี้ หรือเจรจาหาวิธี เงื่อนไขการชำระในรูปแบบอื่น ไม่ควรปล่อยให้มีหนี้ค้าง เสียเครดิต และอาจเสียคู่ค้าทางธุรกิจด้วย

 

          เพียงแค่ปรับใช้ 3 เคล็ดลับที่เราหยิบมาแนะนำในบทความนี้ ก็ช่วยให้คุณสามารถบริหารเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาเงินขาดมือ พร้อมนำพาธุรกิจสู่การเติบโตอย่างมั่นคง

 

 

อ้างอิงจาก https://www.peakaccount.com/blog/accounting/gen-acct/accounting-cashflow-managing

ข่าวอื่นๆ