3 พฤศจิกายน 2568 คณะอนุกรรมการด้านการขนส่งทางบก ภายใต้คณะกรรมการ Logistics & Supply Chain หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “ใครไม่ Green วันนี้ พรุ่งนี้อาจเหลือเพียงชื่อในอดีต” หวังสร้างความตระหนักรู้ให้ผู้ประกอบการไทยเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่การขนส่งสีเขียว (Green Transport) พร้อมนำเสนอความเสี่ยงหากไม่เตรียมพร้อม และโอกาสจากการปรับตัวสู่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ด้วยพลังงานสะอาด ตลอดจนเปิดเวทีระดมความคิดเห็นจากผู้ประกอบการชั้นนำและผู้บริหารระดับสูงภาครัฐ นำไปสู่ข้อสรุปแนวทางผลักดัน รวมทั้งปลดล็อคอุปสรรคโลจิสติกส์และซัพพลายเชนไทยให้สามารถแข่งขันได้ พร้อมก้าวสู่ขนส่งสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นายภูมินทร์ หะรินสุต รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานคณะกรรมการ Logistics & Supply Chain กล่าวเปิดงานด้วยแนวนโยบาย Unlocking New Growth ศักยภาพใหม่แห่งการเติบโตของ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สำหรับเป็นกรอบขับเคลื่อนประเทศให้แข่งขันได้ ผนึกแนวคิดร่วมกับแนวทางส่งเสริมการขนส่งสีเขียวให้โลจิสติกส์ไทยแข่งขันได้ในเวทีสากล
โดยมีฐานแนวคิดจาก นายบรรณ เกษมทรัพย์ กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทยและประธานอนุกรรมการด้านการขนส่งทางบก จึงเกิดเป็นการระดมสมองร่วมกับพันธมิตรและเครือข่ายในครั้งนี้
ด้าน รศ.ดร.สมพงษ์ ศิริโสภณศิลป์ อาจารย์พิเศษหลักสูตรสหสาขาวิชาการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมบรรยายพิเศษโดยเน้นสร้างความตระหนักรู้ให้ผู้ประกอบการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนไทยต่อการเปลี่ยนผ่านสู่ Trend ขนส่งสีเขียว พร้อมฉายภาพความจำเป็นต้องปรับตัวจากกฎระเบียบการค้าโลกและประเทศคู่ค้าที่กำลังนำหลักการความยั่งยืนมาเป็นเกณฑ์กำหนดเงื่อนไขการค้าพร้อมทั้งโอกาสที่จะเกิดขึ้นหากปรับตัวได้ทัน อาทิ การเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งการลดต้นทุนระยะยาวอันมีผลต่อกำไร การมุ่งสู่ Net Zero เพื่อสร้างมาตรฐานและความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยเรื่อง GREEN ไม่ได้เป็นแค่การปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่เป็นกลไกเชิงกลยุทธ์ที่สร้าง ความสามารถในการแข่งขันระยะยาว รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว
สำหรับช่วงเสวนาฯ มีการนำเสนอมุมมองและแชร์ประสบการณ์จากการปรับเปลี่ยนสู่การขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งมิติด้านปัญหาอุปสรรคและความสำเร็จที่เกิดขึ้น ถ่ายทอดตรงจากตัวแทนผู้ประกอบการชั้นนำ ประกอบด้วย บจก.อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) บจก.ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) พร้อมทั้ง บจก.มนต์ โลจิสติกส์ กรุ๊ป และ บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์
นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอมุมมองจากผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐต่อทิศทางของกระทรวงคมนาคมด้านการขนส่งสีเขียวและมาตรการส่งเสริมรถยนต์ รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า โดย นายจิรโรจน์ ศุกลรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรหรือ สนข. และนายชีพ น้อมเศียร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก
ดำเนินการเสวนาฯ โดย ศ.ดร.รุธิร์ พนมยงค์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาบริหารธุรกิจระหว่างประเทศโลจิสติกส์และการขนส่ง คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญในวงการโลจิสติกส์ของประเทศไทย
ปิดท้ายด้วย การระดมความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการฯ แต่ละภาคส่วนที่มีต่อการเพิ่มประสิทธิภาพ และประสิทธิผลในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ขนส่งสีเขียวตั้งแต่ก้าวแรกสู่เป้าหมายไปด้วยกันอย่างยั่งยืน โดยผลสรุปครั้งนี้ คณะกรรมการ Logistics & Supply Chain และคณะอนุกรรมการด้านการขนส่งทางบก หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจะเสนอต่อหน่วยงานภาครัฐ เพื่อผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและปฏิบัติได้จริง ต่อไป
