Smart to Know: AI Transformation ฉบับ SMEs

          คุณเคยรู้สึกไหมว่าโลกหมุนเร็วจนเราตามแทบไม่ทัน? วันนี้ คนที่น่ากลัวที่สุดอาจไม่ใช่คู่แข่งรายใหญ่ แต่คือเพื่อนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เรานี่เอง โลกธุรกิจในปัจจุบันไม่ได้วัดกันที่ขนาดอีกต่อไป แต่กำลังวัดกันที่ "ความเร็ว" ในการปรับตัว และอาวุธที่ทรงพลังที่สุดในยุคนี้ก็คือ "ปัญญาประดิษฐ์" หรือ AI

          นพ.ศุภชัย  ปาจริยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท RISE ผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาองค์กรกว่า 500 แห่งทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เปิดมุมมองใหม่ที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยชี้ให้เห็นถึงวิกฤตที่ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SME กำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาแรงงานที่ลดลงอย่างน่าใจหายถึง 40% สงครามการค้าที่ส่งผลกระทบโดยตรง และสถิติที่น่าตกใจว่า 26% ของ SME ไทย ขาดทุนต่อเนื่องมาตลอด 3 ปี

          แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ และโอกาสนั้นก็คือ AI นี่คือ 7 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่จะเปลี่ยนคุณและธุรกิจของคุณให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

 

1. เริ่มต้นที่ตัวคุณ: เปลี่ยนตัวเองให้เป็น "ผู้นำ" ด้าน AI

          ทุกการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ต้องเริ่มต้นจากผู้นำ วันนี้คงไม่มีใครไม่เคยใช้ AI แต่คำถามคือ “คุณใช้ AI มากกว่าหนึ่งตัวแล้วหรือยัง?” โลกนี้ไม่ได้มีแค่ ChatGPT แต่ยังมีทั้ง Gemini, Perplexity, Claude และอีกมากมายที่รอให้คุณไปค้นพบ

          แต่ละตัวมีความเก่งเฉพาะด้าน เช่น Claude (CL) ที่สามารถเขียนโปรแกรมได้ดีเยี่ยม จนบริษัทสื่อดัง ๆ และ SME หลายแห่งในไทยไม่ต้องจ้างโปรแกรมเมอร์เลยแม้แต่คนเดียว แค่จ่ายเงินเดือนละไม่กี่พันบาท ก็เหมือนมีกองทัพโปรแกรมเมอร์ 5 คนมาช่วยงานตลอดเวลา

          "วันนี้ลองเปิดใจ...ถ้าคุณมีเลขาได้แค่คนเดียว ทำไมไม่ลองมีเลขาเพิ่มเป็น 3 คนดูล่ะ?" การทดลองใช้ AI หลากหลายตัว จะทำให้คุณเห็นความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และทำงานได้เร็วขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่ง AI นั้นเติบโตเร็วมาก อย่าง OpenAI เพิ่งประกาศว่ามีรายได้กว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อเดือน และตั้งเป้าจะโตขึ้น 10 เท่าในปีหน้า แสดงให้เห็นว่า AI จะสามารถสร้างประโยชน์มหาศาลให้กับผู้คนทั่วโลก


2. กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน: เพิ่มรายได้ หรือ ลดรายจ่าย?

          เมื่อคุณคุ้นเคยกับ AI แล้ว ขั้นต่อไปคือการนำมาใช้กับองค์กรอย่างมีทิศทาง หัวใจของธุรกิจมีแค่ 2 อย่าง คือ "เพิ่มรายได้" และ "ลดค่าใช้จ่าย" เพื่อให้กำไรเพิ่มขึ้น

          ลองถามตัวเองว่า...
•    คุณใช้ AI ช่วยหาลูกค้าใหม่ๆ (Lead Generation) แล้วหรือยัง? หรือยังใช้แค่แต่งบทความลง Facebook

•    คุณเคยลองถาม AI ไหมว่า "ธุรกิจร้านอาหาร 2 สาขาของฉัน จะลดต้นทุนในยุคข้าวของแพงได้อย่างไร?"

          AI นั้นสามารถช่วยคุณเขียนแผนธุรกิจที่น่าทึ่งจนธนาคารอนุมัติเงินกู้ได้ง่ายขึ้น ดังนั้น การตั้งคำถามที่ดี คือกุญแจสำคัญที่จะปลดล็อกศักยภาพของ AI ให้มาช่วยธุรกิจของคุณ


3. ใช้เครื่องมือให้เป็นประโยชน์: แหล่งทุนสนับสนุนอยู่ใกล้แค่เอื้อม

          หลายคนอาจกังวลเรื่องต้นทุน แต่ปัจจุบันมีโครงการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนมากมาย เช่น

•    โครงการ Matching Fund: รัฐช่วยออกเงินให้ 200,000 บาท เมื่อคุณลงทุน 200,000 บาท เพื่อนำ AI มาใช้ในองค์กร

•    โครงการ Mini Transformation Voucher: แจกเงินฟรี 10,000 บาท ให้บริษัทไปซื้อบริการ AI จาก Startup ไทยที่ขึ้นทะเบียนไว้ โดยที่คุณไม่ต้องควักเงินตัวเองเลย
เครื่องมือเหล่านี้มีไว้เพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น อย่าปล่อยให้โอกาสดี ๆ แบบนี้หลุดลอยไป


4. ประเมินความพร้อมขององค์กร: ข้อมูลดี ผลลัพธ์ย่อมดี

          การมีเครื่องมือที่ดีอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องมี "คน" ที่พร้อมและ "ข้อมูล" ที่ดีด้วย หัวใจสำคัญของ AI คือ "Garbage In, Garbage Out" หากคุณป้อนข้อมูลขยะเข้าไป คุณก็จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นขยะกลับมา ดังนั้น การเตรียมข้อมูลให้มีคุณภาพ และพัฒนาทักษะของบุคลากรจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้


5. เริ่มจากก้าวเล็ก ๆ และสนุกไปกับมัน

          อย่าเพิ่งตั้งเป้าหมายที่ใหญ่เกินไป ให้เริ่มจากโปรเจกต์เล็ก ๆ ที่ทำแล้วสนุกและเห็นผลเร็ว เช่น ลองสร้างเว็บไซต์ในไม่กี่วินาที: ลองใช้เครื่องมืออย่าง `Loveable` สตาร์ทอัปยูนิคอร์นที่โตเร็วมาก สามารถสร้างเว็บไซต์สวย ๆ ได้ง่าย ๆ แค่พิมพ์บอกว่าคุณต้องการอะไร ซึ่งเหมาะมากสำหรับนักศึกษาที่อยากทำ Portfolio สมัครงานเท่ ๆ

          ลองตั้งเป้าหมายปีใหม่ (New Year Resolution) ให้กับตัวเองว่า "ฉันจะลองใช้ AI ตัวใหม่ สัปดาห์ละ 1 ตัว" แค่หนึ่งปีผ่านไป คุณจะมีเครื่องมือ AI กว่า 50 ตัวอยู่ในมือ และกลายเป็นคนที่เก่งกว่าคู่แข่งของคุณอย่างก้าวกระโดด


6. สร้างวัฒนธรรม AI ในองค์กร

          เมื่อมีคนในทีมใช้ AI แล้วประสบความสำเร็จ จง "Celebrate Small Wins" หรือเฉลิมฉลองความสำเร็จเล็ก ๆ เหล่านั้น เพื่อเป็นกำลังใจและสร้างแรงผลักดันให้คนอื่นทำตาม ยกตัวอย่าง CEO ของ LINE MAN Wongnai ที่นำ AI มาใช้ในหลาย ๆ เรื่อง เช่น

•    นำมาช่วยลดขั้นตอน และเพิ่มประสิทธิภาพงาน จากเดิมที่เคยตรวจสอบการทุจริตได้วันละ 1,000 เคส ตอนนี้ AI ช่วยให้ตรวจได้ถึงวันละ 100,000 เคส โดยไม่ต้องสุ่มตรวจอีกต่อไป

•    จัดประกวด "AI Hackathon" เปิดโอกาสให้พนักงานทุกแผนก ไม่ว่าจะเป็นการเงิน บัญชี ฯลฯ ได้เสนอโปรเจกต์ AI ของตัวเอง เพื่อทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง สิ่งนี้จะช่วยเปลี่ยนบริษัทของคุณให้เป็น "AI-First Company" ได้อย่างแท้จริง


7. การปรับตัวคือ "มาราธอน" ไม่ใช่ "วิ่งระยะสั้น"

          ต้องจำไว้เสมอว่า การนำ AI มาใช้ ไม่ใช่การวิ่ง 100 เมตรที่เข้าเส้นชัยแล้วจบไป แต่มันคือการวิ่งมาราธอนที่ไม่มีวันสิ้นสุด เพราะต่อจากนี้ AI จะไม่หายไปไหน แต่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา เหมือนกับอินเทอร์เน็ตเมื่อ 20 ปีก่อน

          วันนี้ถ้าคุณยังไม่เริ่มวิ่ง คุณก็อาจจะเริ่มแพ้แล้ว และถ้าคุณวิ่งแค่ระยะสั้น ๆ ก็คงไม่เพียงพอ...ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเริ่มต้นวิ่งมาราธอน AI ไปด้วยกัน เพื่อพาตัวเองและองค์กรไปสู่ความสำเร็จในระดับโลก


บทสรุป ข้อคิดสำหรับ SMEs

          ในความเห็นของผู้เขียน...เราได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง จากการบรรยายในครั้งนี้ บางคนอาจมองว่า ไม่ต้องมี AI ก็ยังสามารถทำงานได้อยู่...จริงครับ คนที่ไม่ได้ใช้ AI...ไม่ได้แพ้ใคร แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะอาจแพ้เพื่อนข้าง ๆ ที่ใช้ AI ได้เก่งกว่า นี่คือความจริงที่ต้องเผชิญในยุคนี้ การแข่งขันไม่ได้อยู่ไกลตัว แต่อยู่ที่คู่แข่งในธุรกิจเดียวกัน หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงานที่นำ AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพได้เร็วกว่า ถูกกว่า และดีกว่าเรา หากเราไม่เริ่มปรับตัว เราอาจจะตามไม่ทันในที่สุด

          อนาคตอันใกล้ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและการทำงานของเรา เหมือนกับอินเทอร์เน็ตที่เคยเป็นของใหม่เมื่อ 20 ปีก่อน ดังนั้น การปรับตัวจึงต้องทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ หากยังไม่เริ่มวิ่ง ตอนนี้ก็อาจจะเริ่มแพ้แล้ว ส่วนคนที่เริ่มใช้แล้ว ก็อย่าใช้ AI เพียงแค่แต่งบทความ แต่ต้องใช้มัน “หาลูกค้าใหม่” และ “ลดรายจ่าย” เพราะศักยภาพของ AI มีมากกว่าการเป็นผู้ช่วยเขียนงานทั่วไป ลองตั้งคำถามกับ AI ว่าจะช่วยเพิ่มรายได้หรือลดต้นทุนในธุรกิจของคุณได้อย่างไร AI สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาลูกค้าใหม่ หรือแม้กระทั่งช่วยเขียนแผนธุรกิจเพื่อขอกู้เงินจากธนาคารให้ผ่านง่ายขึ้นได้

 

    “ขอให้สนุกกับการใช้ AI เพื่อสร้างธุรกิจของเราให้เติบโตครับ”

 


อ้างอิงจาก การบรรยายพิเศษหัวข้อ “AI Transformation ฉบับ SMEs”
โดย นพ.ศุภชัย  ปาจริยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท RISE
ในงานมหกรรม SMEs หอการค้า 5 ภาค วันที่ 12 กันยายน 2568 @นครปฐม

 

ข่าวอื่นๆ