ส่องความเชื่อมั่นเอกชนไทย 5 ภาค ผ่าน TCC CONFIDENCE INDEX ประจำเดือน สิงหาคม 2568

เปิดผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย TCC CONFIDENCE INDEX ประจำเดือน สิงหาคม 2568

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ประจำเดือนสิงหาคม 2568 พบว่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 44.2 ลดลงจากเดือนกรกฎาคมที่ 45.3 และต่ำกว่าค่ากลางที่ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 สะท้อนว่าผู้ประกอบการภาคเอกชนยังคงมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence Index) ในเดือนเดียวกันอยู่ที่ 50.1 ซึ่งนับว่าต่ำที่สุดในรอบ 32 เดือน หรือตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 และยังปรับตัวลดลงในทุกหมวดหมู่ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ทั้งดัชนีเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมที่ 44.1 ดัชนีเกี่ยวกับโอกาสในการหางานที่ 48.3 และดัชนีเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตที่ 58.0

ขณะที่ปัจจัยที่กดดันความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการและผู้บริโภคในช่วงนี้ มาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการค้าและการลงทุน ปัญหาค่าครองชีพและต้นทุนธุรกิจที่ยังอยู่ในระดับสูง ตลอดจนความกังวลต่อมาตรการเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและภาวะเศรษฐกิจโลกที่เปราะบาง อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยหนุนที่ช่วยประคองเศรษฐกิจ ได้แก่

  • ผลการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ที่ทำให้อัตราภาษีนำเข้าลดลงเหลือร้อยละ 19
  • การอ่อนค่าของเงินบาทที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออก
  • มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ เช่น โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ซึ่งช่วยเพิ่มสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการในภาคบริการและโรงแรม

ทั้งนี้ การปรับลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นทั้งภาคธุรกิจและผู้บริโภคในเดือนสิงหาคม 2568 สะท้อนถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจไทยท่ามกลางแรงกดดันรอบด้าน

ข้อเสนอของภาคเอกชนต่อภาครัฐ

  • แนวทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัว รวมทั้งหามาตรการป้องกันและรับมือกับสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทย–กัมพูชา รวมทั้งการบริหารจัดการการค้าชายแดน

  • มาตรการป้องกันและเยียวยากับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง และขาดรายได้เป็นเวลานาน

  • มาตรการปล่อยสินเชื่อสำหรับภาคธุรกิจ SMEs เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง

  • เร่งออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย เช่น มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง มาตรการกระตุ้นที่สามารถเพิ่มยอดคำสั่งซื้อสินค้า/บริการในทุกสาขาธุรกิจ

  • รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อการส่งออกและภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

  • มาตรการส่งเสริมช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อช่วยลดขั้นตอนต่างๆ ที่ไม่จำเป็นลง

 

รับฟังการถ่ายทอดสดย้อนหลัง https://www.facebook.com/utcctoday/videos/841394451573823?locale=th_TH

ดาวน์โหลดเอกสาร https://cebf.utcc.ac.th/upload/index_file/683_99_file_th_683d11y2025.pdf

 

ที่มา : ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
เรียบเรียงและจัดทำโดย ฝ่ายนโยบายยุทธศาสตร์ หอการค้าไทย

 

ข่าวอื่นๆ