เปิดผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงเทศกาลลอยกระทง ปี 68

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจ “พฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทง ปี 2568” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,300 รายทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 20–27 ตุลาคม 2568 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่กว่า 94.7% จะอยู่ในจังหวัดที่ตนเองอาศัย และมีเพียง 5.3% ที่วางแผนเดินทางออกนอกจังหวัด โดยกว่า 82.5% มีแผนทำกิจกรรมในวันลอยกระทง เพิ่มขึ้นจากปีก่อน (73.3%) สะท้อนความต้องการผ่อนคลายและจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น หลังภาครัฐออกมาตรการ “คนละครึ่งพลัส” เข้ามาช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปี

อย่างไรก็ตาม เทศกาลลอยกระทงปีนี้ถูกจัดขึ้นในบรรยากาศ เรียบง่ายและสงบกว่าทุกปี เนื่องจากอยู่ในช่วงไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ส่งผลให้หลายจังหวัดปรับรูปแบบการจัดงานให้เหมาะสม เช่น ลดกิจกรรมรื่นเริง การแสดงแสงสีเสียง และงดการจุดพลุหรือคอนเสิร์ตใหญ่ เพื่อให้บรรยากาศสอดคล้องกับช่วงเวลาแห่งความอาลัย ภาครัฐและหน่วยงานท้องถิ่นจึงเน้นการจัดงานในรูปแบบ “ลอยกระทงน้อมรำลึกและรักษ์สิ่งแวดล้อม” ภายใต้มาตรการ “5 ปลอด” ได้แก่ ปลอดกระทงโฟม ปลอดมลพิษทางน้ำ ปลอดโคมลอย ปลอดประทัดพลุ และปลอดภัยจากอุบัติเหตุ เพื่อรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทั้งนี้ คาดว่าจะเม็ดเงินสะพัดในช่วงเทศกาลลอยกระทงปี 2568 อยู่ที่ประมาณ 9,677 ล้านบาท ลดลงราว 6.5% จากปีก่อน (10,355 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นการชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นไม่เต็มที่ แม้ยังคงเห็นสัญญาณบวกจากกิจกรรมท่องเที่ยวและการใช้จ่ายในท้องถิ่นที่กลับมาคึกคักในหลายพื้นที่

 

พฤติกรรมการลอยกระทงของประชาชน

  • 46.0% ระบุว่าจะ “ไปลอยกระทงและร่วมกิจกรรมอื่นด้วย”
  • 20.2% จะ “ไปลอยกระทงอย่างเดียว”
  • 16.3% จะ “ไม่ลอยแต่ร่วมกิจกรรมอื่น”
  • มีเพียง 16.9% ที่ระบุว่าจะ “ไม่ไปลอย อยู่บ้านเฉยๆ”

 

เหตุผลหลักในการออกไปลอยกระทง ได้แก่

  • เพื่อทำบุญและอุทิศส่วนกุศล (38.3%)
  • เพื่อสืบสานประเพณี (19.0%)
  • เพื่อขอพร (17.9%)
  • ได้รับแรงจูงใจจากมาตรการ “คนละครึ่งพลัส” (15.4%)

 

การใช้จ่ายเฉลี่ยและพฤติกรรมการชำระเงิน

ปีนี้ประชาชนมีการวางแผนใช้จ่ายมากขึ้นถึง 63.8% โดยใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 2,212 บาท ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน (2,449 บาท) เนื่องจากภาวะค่าครองชีพสูง แต่ยังอยู่ในระดับดีเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด กิจกรรมหลักที่ใช้จ่ายมากที่สุด ได้แก่ ท่องเที่ยว (5,131 บาท/คน), รับประทานอาหารนอกบ้าน (1,615 บาท/คน), ช้อปปิ้ง (1,967 บาท/คน) และ สังสรรค์ (1,576 บาท/คน)

 

ผลของมาตรการ “คนละครึ่งพลัส”

ผลสำรวจ พบว่า 75.1% ของผู้ได้รับสิทธิ์โครงการคนละครึ่งพลัส นำเงินมาใช้ในช่วงลอยกระทง โดยใช้จ่ายส่วนใหญ่กับอาหารและเครื่องดื่ม (54.2%) และกระทงหรืออุปกรณ์ลอยกระทง (20.4%) ทั้งนี้ ประชาชน 83.9% ระบุว่าจะเข้าร่วมโครงการหากมีรอบใหม่ เมื่อถามถึงผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม พบว่า 42.3% เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศได้มาก 39.1% มองว่าช่วยเพิ่มยอดขายผู้ประกอบการในพื้นที่ และเกินครึ่งเห็นว่าเป็นการ “ลดภาระค่าใช้จ่ายของกลุ่มเปราะบาง” อย่างมีนัยสำคัญ

 

เทศกาลลอยกระทงปี 2568 ยังคงเป็นเทศกาลแห่งความสุขและการจับจ่ายของคนไทย แม้กำลังซื้อโดยรวมจะชะลอตัวจากปัจจัยเศรษฐกิจ แต่ความร่วมมือของภาครัฐในการออกมาตรการกระตุ้น เช่น “คนละครึ่งพลัส” ยังมีบทบาทสำคัญในการรักษาบรรยากาศการบริโภคและพยุงเศรษฐกิจท้องถิ่นในช่วงปลายปีได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

ดาวน์โหลดเอกสารคลิก https://cebf.utcc.ac.th/upload/poll_file/file_th_203d30y2025.pdf

ที่มา : หอการค้าไทย ร่วมกับ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
เรียบเรียงและจัดทำโดย ฝ่ายนโยบายยุทธศาสตร์และการตลาด หอการค้าไทย