ม.หอการค้าไทย ปรับคาดการณ์ GDP ปี 2568 โต 2.0% จากแรงหนุนส่งออก–ลงทุน–มาตรการรัฐ

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 โดยปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) จากเดิมที่คาดไว้ 1.7% มาอยู่ที่ 2.0% หลังเศรษฐกิจครึ่งปีแรกขยายตัวได้ดีกว่าที่ประเมินไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกที่เติบโตแข็งแกร่ง การลงทุนภาคเอกชนที่เริ่มฟื้นตัว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่เริ่มเห็นผลชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี

เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 (H1/68) ขยายตัวเฉลี่ย 3.0%

โดยมีแรงขับเคลื่อนจากภาคต่างประเทศเป็นหลัก การส่งออกสินค้าเติบโตได้ถึง 15% จากตลาดสำคัญทั้งสหรัฐฯ จีน และอาเซียน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนเริ่มกลับมาขยายตัว 1.4% โดยเฉพาะในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นถึง 5.9% หลังหดตัวต่อเนื่องมาหลายไตรมาส ส่วนการบริโภคภาคเอกชนยังคงขยายตัวในระดับ 2.8% ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น “โครงการคนละครึ่งพลัส” และ “มาตรการเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ซึ่งช่วยเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบรวมกว่า 8.1 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นราว 0.44% ของ GDP

แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่เพียง 33 ล้านคน ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่ 36 ล้านคน ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวปรับลดลงจาก 1.69 ล้านล้านบาท เหลือราว 1.55 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองจากการบริหารงานของรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งมีกรอบเวลาการทำงานเพียง 4 เดือนตามข้อตกลง อาจส่งผลต่อความต่อเนื่องของนโยบายและความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขณะที่ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชายังคงยืดเยื้อ ส่งผลให้การค้าชายแดนหดตัวและอาจฉุด GDP ลงได้อีก 0.32% หรือราว 59,000 ล้านบาท อีกหนึ่งปัจจัยภายนอกที่ต้องจับตาคือ มาตรการภาษี Transshipment ของสหรัฐฯ หากมีการปรับเพิ่มสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศ (Local Content) จาก 40% เป็น 60% อาจส่งผลให้ GDP ไทยลดลงอีกประมาณ 0.1% ขณะเดียวกัน สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นใน 36 จังหวัดทั่วประเทศสร้างความเสียหายต่อภาคเกษตรและบริการรวมมูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท ยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อภาคการผลิตในช่วงปลายปี

ฉากทัศน์เศรษฐกิจไทยปี 2568

ฉากทัศน์ ลักษณะสถานการณ์ คาดการณ์ GDP
Best Case ความขัดแย้งคลี่คลาย–ท่องเที่ยว 34 ล้านคน 2.4%
Better Case รัฐบาลอยู่ครบ 4 เดือน–ภาษียังไม่บังคับใช้ 2.3%
Base Case ปิดด่านชายแดน–ท่องเที่ยว 33 ล้านคน 2.0%
Worse Case เพิ่ม Local Content เป็น 50%–ท่องเที่ยวลดลง 1.7%
Worst Case รัฐบาลล่มเร็ว–สงครามการค้ารุนแรง 1.2%


ข้อเสนอเชิงนโยบาย

  1. เร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทันที เช่น “คนละครึ่งพลัส” หรือ “ไทยเที่ยวไทย Plus” เพื่อดึงกำลังซื้อและรายได้เข้าสู่ระบบ
  2. จัดการความเสี่ยงจากต่างประเทศ ตั้งคณะทำงานเจรจาภาษี Local Content กับสหรัฐฯ และดูแลผลกระทบชายแดนกัมพูชา
  3. เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐ เพื่อให้เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
  4. รักษาเสถียรภาพทางการเมือง เสนอให้รัฐบาลประกาศ “แผนยุทธศาสตร์ 120 วัน” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน
  5. สนับสนุนภาคเอกชนและ SMEs ผ่าน Soft Loan สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ และสิทธิประโยชน์ BOI สำหรับการลงทุนใหม่

 

รับฟังการถ่ายทอดสดย้อนหลัง https://www.facebook.com/utcctoday/videos/1133222018972722?locale=th_TH

ดาวน์โหลดเอกสาร https://cebf.utcc.ac.th/upload/index_file/file_th_687d08y2025.pdf

 

ที่มา : ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
เรียบเรียงและจัดทำโดย ฝ่ายนโยบายยุทธศาสตร์ หอการค้าไทย