ถอดรหัสผลกระทบเศรษฐกิจไทย จากภาษีตอบโต้สหรัฐ 19%

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจากกรณีที่สหรัฐอเมริกาประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ต่อสินค้าไทยในอัตรา 19% โดยสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ รวมถึงยางและผลิตภัณฑ์ยาง ซึ่งล้วนเป็นสินค้าที่มีสัดส่วนการส่งออกสูง และมีการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ เป็นหลัก

 

เมื่อพิจารณาความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย 10 อันดับแรกในตลาดสหรัฐฯ พบว่า ไทยไม่ได้เสียเปรียบประเทศคู่แข่งในภูมิภาคมากนัก เนื่องจากอัตราภาษีอยู่ในระดับใกล้เคียงกับมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา ขณะที่ประเทศที่ได้เปรียบกว่าไทย คือ สิงคโปร์ ซึ่งได้รับอัตราภาษีเพียง 10% รวมถึงญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่อยู่ในระดับ 15% โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีสูง เช่น แผงวงจรรวม เซมิคอนดักเตอร์ และเครื่องมืออุตสาหกรรมขั้นสูง ในทางกลับกัน ไทยยังมีข้อได้เปรียบในการแข่งขันกับหลายประเทศที่เผชิญอัตราภาษีสูงกว่า เช่น เวียดนาม ไต้หวัน ศรีลังกา และบังกลาเทศ ที่ถูกเรียกเก็บภาษี 20% อินเดียและบรูไนที่ 25% ลาวและเมียนมาที่ 40% และจีนซึ่งเสียเปรียบมากที่สุดด้วยอัตราภาษีสูงถึง 51% ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยสามารถขยายตลาดส่งออกในกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพ เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร คอมพิวเตอร์ เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าเบ็ดเตล็ด

 

จากการประเมินผลกระทบของภาษี 19% ในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปี 2568 คาดว่าจะกระทบต่อการส่งออกไทยคิดเป็นมูลค่าราว 114,612 ล้านบาท หรือราว -0.62% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) โดยแบ่งเป็นผลกระทบทางตรงจากต้นทุนการส่งออกที่สูงขึ้น 106,518 ล้านบาท ผลกระทบทางอ้อมผ่านห่วงโซ่อุปทานโลก 26,978 ล้านบาท และยังมีส่วนที่ไทยอาจได้ประโยชน์จากการเบี่ยงเบนทางการค้า 18,884 ล้านบาท สำหรับปี 2569 ซึ่งจะสะท้อนผลกระทบเต็มปี คาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทยอาจลดลงสูงถึง 275,069 ล้านบาท และส่งผลให้ GDP หดตัวลงถึง -1.48% โดยประกอบด้วยผลกระทบทางตรง 255,643 ล้านบาท ผลกระทบทางอ้อม 64,747 ล้านบาท และได้ประโยชน์จากการเบี่ยงเบนทางการค้า 45,322 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยหอการค้ายังคงประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยทั้งปีไว้ที่ 1.5–2.0% โดยมีค่ากลางที่ 1.7%


เพื่อรองรับสถานการณ์และบรรเทาผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เสนอแนะนโยบายสำคัญ 6 ด้าน ได้แก่
1.    ให้การช่วยเหลือกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ
2.    เสริมสร้างกฎเกณฑ์แหล่งกำเนิดสินค้าให้ชัดเจน
3.    กระจายตลาดส่งออกไปยังภูมิภาคอื่นเพื่อลดการพึ่งพาสหรัฐฯ
4.    ส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง
5.    กระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ เพื่อสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจ
6.    เดินหน้านโยบายการทูตเชิงรุก เพื่อรักษาตลาดเดิมและขยายความร่วมมือกับประเทศคู่ค้า

 

รับฟังการถ่ายทอดสดย้อนหลัง https://www.facebook.com/utccnews/videos/1399139811163313?locale=th_TH

 

ที่มา : ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
เรียบเรียงและจัดทำโดย ฝ่ายนโยบายยุทธศาสตร์ หอการค้าไทย