
เศรษฐกิจไทยปี 2568 โตต่ำกว่าคาด เหลือเพียง 1.7%
ม.หอการค้าไทยเผยเศรษฐกิจเผชิญแรงกดดันรอบด้าน หวั่นปัจจัยเสี่ยงฉุดกำลังซื้อ–ลงทุน–ส่งออก
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศไทยในปี 2568 ลงเหลือเพียง 1.7% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.0% โดยให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญแรงกดดันจากทั้งภายนอกและภายในประเทศ พร้อมเสนอแนวทางเร่งด่วนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ปัจจัยลบรุมเร้า ส่งออกสะดุด การบริโภคอ่อนแรง การลงทุนหดตัว
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ภาพรวมการส่งออกดูเหมือนจะดีขึ้นจากการเร่งส่งออกล่วงหน้าเพื่อเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ แต่ในช่วงครึ่งปีหลัง แนวโน้มกลับเปลี่ยนไปในทางลบ โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่า การส่งออกอาจหดตัวอย่างมีนัยสำคัญ หากไทยไม่สามารถเจรจาผ่อนคลายมาตรการทางภาษีกับสหรัฐฯ ได้สำเร็จ
ขณะเดียวกัน การลงทุนภาคเอกชนยังคงติดลบต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 และคาดว่าจะหดตัว -1.2% ตลอดทั้งปี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ภาระต้นทุนที่สูงขึ้น และความกังวลเรื่องกำลังซื้อ สำหรับ การบริโภคภาคเอกชน คาดว่าจะเติบโตเพียง 2.4% เทียบกับ 7.1% ในปี 2566 โดยมีแรงกดดันสำคัญจากภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงถึง 87.4% ต่อ GDP และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ท่องเที่ยวฟื้นไม่เต็มที่ – นักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมา
แม้ภาพรวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น แต่ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นตลาดหลักกลับฟื้นตัวช้ากว่าคาด โดยในช่วงต้นปี 2568 กลับมาเพียง 40.3% เทียบกับระดับก่อนโควิด-19 ส่งผลต่อรายได้ภาคบริการและการบริโภคในเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศ
ปัจจัยภายนอกซับซ้อน สินค้าจีนทะลัก-ความขัดแย้งระหว่างประเทศ
อีกหนึ่งแรงกดดันสำคัญคือ การไหลทะลักของสินค้าจีนราคาถูกเข้ามาในตลาดไทย อันเป็นผลจากที่จีนส่งออกไปสหรัฐฯ ได้น้อยลงจากมาตรการกีดกันทางการค้า ทำให้สินค้าเหล่านั้นเบี่ยงเข้ามาในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงระหว่างประเทศ เช่น
เร่งเจรจาการค้า – กระตุ้นการใช้จ่าย – สร้างความเชื่อมั่น
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เสนอว่ารัฐบาลควรเร่งดำเนินมาตรการ ดังนี้
เรียบเรียงและจัดทำโดย ฝ่ายนโยบายยุทธศาสตร์ หอการค้าไทย
ติดตามหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
ทุกช่องทางได้ที่ : https://linktr.ee/thaichamber