ส่องความเชื่อมั่นเอกชนไทย 5 ภาค ผ่าน TCC CONFIDENCE INDEX ประจำเดือน พฤษภาคม 2568

เปิดผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย TCC CONFIDENCE INDEX ประจำเดือน พฤษภาคม 2568

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมในเดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ที่ระดับ 48.0 ลดลงจากระดับ 48.3 ในเดือนเมษายน 2568 ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 สะท้อนถึงความกังวลของภาคธุรกิจที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยลบสำคัญ ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ค่าครองชีพที่สูงกว่ารายได้ ความระมัดระวังการใช้จ่ายของผู้บริโภค ค่าเงินบาทแข็ง และสถานการณ์ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่ความคาดหวังในอนาคต 6 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 51.0 ซึ่งแม้จะสูงกว่าในปัจจุบัน แต่ก็ยังต่ำกว่าค่ากลางที่ 50 อยู่หลายด้าน อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังคงมีปัจจัยสนับสนุนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดังนี้

  • ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย โดยลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2.00% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาฯ จาก 1.00% เหลือ 0.01% ที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมิน ไม่เกิน 7 ล้านบาท
  • จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการยกเว้นการยื่นวีซ่านักท่องเที่ยว 
  • การส่งออกของไทยเดือน เม.ย. 68 ขยายตัวร้อยละ 10.18 มูลค่าอยู่ที่ 25,625.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.08 มีมูลค่าอยู่ที่ 28,946.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้าอยู่ที่ 3,321.34 ล้านดอลลาร์ 
  • ราคาน้ำมันขายปลีกแก๊สโซฮอล ออกเทน 91 (E10) และแก๊สโซฮอล ออกเทน 95 ในประเทศ ปรับตัวลดลงประมาณ 0.30 บาทต่อลิตรจากเดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 32.18 และ 32.55 บาท ต่อลิตร ส่วนราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในประเทศ ยังคงทรงตัวจากเดือนที่มา อยู่ที่ระดับ 31.94 บาทต่อลิตร ณ สิ้นเดือน พ.ค. 68 
  • เข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลไม้ ทำให้อุปสงค์สินค้าเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในกลุ่มอาหารสด อาหารแห้ง อาหารแปรรูป และผลไม้ 
  • ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้นหรือทรงตัวในระดับที่ดีเกือบทุกรายการสำคัญ ส่งผลให้เกษตรกรเริ่มมีรายได้สูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดเริ่มปรับตัวดีขึ้น 

ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ

  • มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้น 
  • มาตรการทางการเงินที่ช่วยเหลือสภาพคล่องของภาคธุรกิจ ช่วยดูแลมาตรฐานการให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน และช่วยลดความเสี่ยงหนี้เสีย 
  • การบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมกับภาคการเกษตร อุปโภค-บริโภค และรวมไปถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง 
  • การส่งเสริมกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรองให้ต่อเนื่อง เพื่อให้เม็ดเงินกระจายลงสู่พื้นที่ 
  • มาตรการส่งเสริมช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 
  • การดูแลภาระภาษีและค่าใช้จ่าย โดยต้องการให้ภาครัฐลดภาระภาษีและค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจมีต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้

 

รับฟังการถ่ายทอดสดย้อนหลัง https://www.facebook.com/utccnews/videos/715465827691446?locale=th_TH
ดาวน์โหลดเอกสาร https://cebf.utcc.ac.th/upload/index_file/file_th_671d12y2025.pdf

 

ที่มา : ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
เรียบเรียงและจัดทำโดย ฝ่ายนโยบายยุทธศาสตร์ หอการค้าไทย