TCC On-site Visit at Ajinomoto จ.อยุธยา

TCC On-site Visit @ Ajinomoto โรงงานอยุธยา เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 คุณสถาปนะ เลี้ยวประไพ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ SME Delvelopment Center และผู้ประกอบการ SMEs ได้เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตผงชูรสตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

        ได้การต้อนรับจาก คุณยุทธนา เกติพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารทั่วไป กล่าวต้อนรับและบรรยายถึงประวัติการก่อตั้งโรงงานอยุธยาแห่งนี้ เริ่มต้นด้วยโรงงานอยุธยา นับเป็นโรงงานผลิตผงชูรส แห่งที่ 3 ของบริษัทฯ เริ่มเดินเครื่องจักรการผลิตในเดือนเมษายน พ.ศ. 2556 บนพื้นที่ 1,400 ไร่ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของตลาดทั้งใน และต่างประเทศ โรงงานแห่งนี้ใช้เทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่น โรงงานยังให้ความสำคัญกับการดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้เทคโนโลยีสีเขียว “หม้อต้มไอน้ำพลังงานชีวมวล” โดยใช้แกลบเพื่อผลิตพลังงานไอน้ำทดแทน การใช้น้ำมันปิโตรเลียม

        คุณสมิทธิ์ เพชรดี Department Manager Sustainability Promotion โดย Ajinomoto โรงงานอยุธยาได้มีเป้าหมายในหลักเดินหน้าสู่แนวทางความยั่งยืนเพื่อสู่ผลลัพธ์ปี 2030 โดยกลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ จะมุ่งมั่นที่จะเป็น "กลุ่มบริษัทผู้ส่งมอบแนวทางการแก้ปัญหาและนวัตกรรมที่เกี่ยวกับอาหารและสุขภาพ" เพื่อบรรลุเป้าหมายภายในปี 2030 ที่จะช่วยส่งเสริมสุขภาพดีของผู้คนจำนวนหนึ่งพันล้านคน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 50% จากการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามวิสัยทัศน์ของบริษัทตั้งเป้าหมายไว้ ดังนี้

  • ลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 50% ภายในปี 2030
  • เร่งอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ 80% ภายในปี 2030
  • ลดขยะพลาสติกเป็นศูนย์ภายในปี 2030 (รีไซเคิลพลาสติก)
  • ลดปริมาณของเสียจากอาหารและอื่นๆ ลง 50% ภายในปี 2025
  • การจัดซื้อจัดจ้างต้องยั่งยืน 100% ภายในปี 2030
  • มีโรงงานผลิตไฟฟ้าชีวมวล ช่วยลดค่าไฟได้
  • เดินหน้าบำบัดน้ำเสีย


        คุณโสภา อ่อนนุ่ม กรรมการ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ เอฟ ดี กรีน (ประเทศไทย) จำกัด ได้บรรยายในมุมมองขององค์กรที่ส่งผลต่อ เกษตรกรชาวไทยที่เป็น partnership หลักที่ส่งวัตถุดิบให้กับทางเรา ซึ่งทางบริษัทก็ได้ให้ความสำคัญในหลัก Ajinomoto Biocycle กระบวนการวัฏจักรชีวภาพ เป็นการเปลี่ยนขยะที่เกิดจากพืชผลเหลือใช้ในกระบวนการผลิต เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด นำมาหมักด้วยจุลินทรีย์ จนได้ของเหลวที่สามารถเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ร่วมที่มีประโยชน์ เช่น ปุ๋ยน้ำสำหรับผืชผล และอาหารสัตว์ในรูปแบบของเหลว เพื่อสร้างระบบนิเวศเชิงบวกเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้นด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการเพาะปลูก การดูแลผลผลิต เข้าไปช่วยเหลือในทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำ ทำให้เกษตกรสามารถเพาะปลูกได้อย่างถูกต้อง ได้ผลผลิตสูง มีมาตรฐาน และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ซึ่งเป็นผลดีให้กับเกษตกรไทยเป็นกำลังการผลิตหลักของประเทศอย่างมาก

        ในช่วงถัดมาได้เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการความเป็นมาของผงชูรสไปจนถึงกระบวนการผลิตที่มุ่งสู่มาตรฐาน Net Zero และยังได้เข้าเยี่ยมชมบริเวณโรงงานขนาดพื้นที่กว่า 600 ไร่ ไลน์บรรจุสินค้าต่อไป ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่เดินทางมาพร้อมคณะได้รับองค์ความรู้เกี่ยวกับการนำหลัก sustainability ไปปรับใช้กับองค์กรตัวเอง ตั้งแต่ Scope 1-3 หรือการเริ่มที่จะมีเป้าหมายทำเพื่อส่วนรวม มองถึง supply chain ขององค์กรที่จะเกื้อหนุนกันต่อไปเพื่อโลกที่น่าอยู่ และตัวอย่างการปฏิบัติงานจริงที่ Ajinomoto Thailand ที่ได้ทำงานร่วมกับเกษตกรในพื้นที่เป็นแนวทางตัวอย่างและสามารถทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้กำองค์กรได้ไม่มากก็น้อย

ข่าวอื่นๆ