สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาธุรกิจไทย-ตะวันออกกลาง สมาคมการค้าผู้ส่งออกเอเชียและตะวันออกกลาง และ Global City ร่วมจัดงานสัมมนา ซาอุฯ พลิกโอกาสใหม่ ทางรอดส่งออกไทย...สู้วิกฤติโลก

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 คณะทำงาน Middle East & Africa สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาธุรกิจไทย-ตะวันออกกลาง สมาคมการค้าผู้ส่งออกเอเชียและตะวันออกกลาง และ Global City ร่วมจัดงานสัมมนา “ซาอุฯ พลิกโอกาสใหม่ ทางรอดส่งออกไทย...สู้วิกฤติโลก” ณ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยมี ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเข้าร่วมกล่าวเปิดงานสัมมนาฯ พร้อมด้วย ดร.หลักชัย กิตติพล กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและกรรมการคณะทำงาน Middle East & Africa คุณพจนา พะเนียงเวทย์ กรรมการคณะทำงาน Middle East & Africa และ ดร.ภาสกร ตันติพงษ์ กรรมการคณะทำงาน Middle East & Africa เข้าร่วมงาน

ท่านดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ให้เกียรติกล่าวสุนทรพจน์ภายในงาน โดยเน้นย้ำความสำคัญของประเทศซาอุดีอาระเบีย สาขาธุรกิจของไทยที่ซาอุฯ สนใจร่วมมือ ได้แก่
1. พลังงาน สนใจร่วมลงทุนกับไทยในสาขาปิโตรเลียมไทย โรงกลั่นน้ำมัน โรงเก็บน้ำมัน และไฮโดนเจนสีเขียว
2. ยานยนต์ ซาอุฯ ต้องการชิ้นส่วนรถยนต์ทั้งแบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน และรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อการผลิตรถยนต์ในประเทศ
3. อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซาอุฯ มีนโยบายลดการพึ่งพาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศจากสหรัฐฯ ตลอดจนสร้างสมดุลระหว่างภูมิภาคตะวันตกและตะวันออก 
4. การเกษตร ซาอุฯ ต้องการนำเข้าสินค้า อุปกรณ์ต่างๆ และองค์ความรู้ทางด้านการเกษตร เพื่อสนับสนุนนโยบายปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น ภายใต้แผนงาน Saudi Green Initiative
5. อาหารและสินค้าฮาลาล ในซาอุฯ มีความนิยมอาหารไทยเพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนการขยายตัวของร้านอาหารไทย 
6. การท่องเที่ยวและบริการ และอุตสาหกรรม MICE ซาอุฯ กำลังพัฒนาให้เป็นประเทศจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวระดับโลก 
7. สาธารณสุข บริการสุขภาพ และ Wellness ชาวซาอุฯ นิยมใช้บริการสุขภาพในไทย และต้องการที่จะพัฒนาให้ซาอุฯ เป็นศูนย์กลางด้านสาธารณสุขทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก 
8. การก่อสร้าง การตกแต่ง และสินค้าไลฟ์สไตล์ ซาอุฯ มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาเมือง

พร้อมทั้งนำเสนอ 4 ข้อเสนอสำคัญ ด้านความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนไทยเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจกับซาอุฯ 
1. เร่งจัดทำ FTA กับ GCC เพื่อเข้าถึงสมาชิกประเทศอ่าวอาหรับ 6 ประเทศ
2. สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ส่งออกไทยกับภาครัฐ และภาคเอกชนของซาอุฯ
3. บูรณาการความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนไทยในซาอุดีอาระเบีย 
4. บูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐของไทยอย่างใกล้ชิด

ดร.พจน์ฯ เน้นย้ำบทบาทของหอการค้าไทยฯ ในฐานะผู้นำของภาคเอกชนในการส่งเสริมความร่วมมือกับซาอุฯ อาทิ การจัดงาน Thailand International Mega Fair ณ กรุงริยาด การจัดนักธุรกิจการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย การผลักดันการก่อตั้งสภาธุรกิจไทย–ซาอุดีอาระเบีย ตลอดจนการลงนามบันทึกความเข้าใจกับพันธมิตรที่สำคัญ เช่น สภาหอการค้าซาอุดีอาระเบีย และหอการค้าริยาด เป็นต้น อีกทั้งยังเน้นย้ำความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงของการค้าโลกในปัจจุบัน โดยผลักดันการขยายตลาดของผู้ประกอบการไทยไปยังภูมิภาคต่างๆ 

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเสวนาเชิงยุทธศาสตร์ ในหัวข้อ “ไทย-ซาอุฯ ทางรอดสู้วิกฤติการค้าโลก” โดยมีคุณฐานิศร์ ณ สงขลา อดีตกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ และคุณจารุดล ตุลยกิจจา อุปนายกสมาคมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียน และกรรมการคณะทำงาน Middle East & Africa ให้เกียรติเป็นวิทยากร โดยเน้นย้ำโอกาสและความท้าทายในการเข้าสู่ตลาดซาอุดีอาระเบีย อาทิ อัตรากำลังซื้อสินค้า พฤติกรรมการบริโภคของชาวอาหรับ ปัญหาค่าขนส่งระหว่างประเทศ ภาษีน้ำตาล เป็นต้น

อีกทั้ง ยังมีการเสวนาจับเข่าคุย “ลุยอาหรับกับเซียนการค้า” โดยมี ภญ.ศศิมา อาจสงคราม กรรมการผู้จัดการ  บริษัท สตาร์ เฮิร์บ ฟาร์ม่า จำกัด และคุณอัครพัจน์ ตั้งตรงจิตร เจ้าของห้างหุ้นส่วน จิสประพัจน์ จํากัด มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การค้าในซาอุฯ และเจาะลึกพฤติกรรมการบริโภค ตลอดจนวิถีชีวิตของชาวซาอุฯ เพื่อเปิดมุมให้แก่ผู้ประกอบการไทยได้ขยายธุรกิจในซาอุฯ ต่อไป