การเข้าร่วมเป็นวิทยากรงาน Economic Forum 2025 หัวข้อ “Towards Seamless Connectivity: A Thailand - Malaysia Dialogue on Economic Integration and Partnerships” โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์

 

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 คุณชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย ได้เข้าร่วมเป็นวิทยากรงาน Economic Forum 2025 หัวข้อ “Towards Seamless Connectivity: A Thailand - Malaysia Dialogue on Economic Integration and Partnerships” จัดโดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ณ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลพัฒนาการล่าสุดของโครงการความเชื่อมโยงบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย - มาเลเซีย อีกทั้ง เพื่อแสวงหาโอกาสการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ในภาคใต้ของไทยและตอนเหนือของมาเลเซีย ตลอดจนกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเครือข่ายภาคเอกชนไทย – มาเลเซีย

การจัดงานในครั้งนี้ประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน หอการค้าและสภาอุตสาหกรรมประเทศไทยและมาเลเซีย รวมถึงนักวิชาการ สื่อ และผู้ที่สนใจกว่า 150 ราย โดยคุณชูศักดิ์ฯ ได้ร่วมขึ้นเสวนาในหัวข้อ “Navigating Geopolitical Dynamics in Thailand-Malaysia Economic Cooperation” ร่วมกับผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สหพันธ์ผู้ผลิตแห่งมาเลเซีย (FMM) และ Bangkok Bank Berhad เพื่อหารือถึงการเสาะหาความร่วมมือ และโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมอาหารและฮาลาล ซึ่งผู้ร่วมเสวนาได้ร่วมหารือถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงโอกาส ความท้าทาย และความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจ/MSMEs ระหว่างประเทศไทยและมาเลเซีย 

คุณชูศักดิ์ฯ ได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1. ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะจากมาตรการทางภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ 2. กลยุทธ์การปรับตัวของผู้ประกอบการไทย เช่น การนำเทคโนโลยี AI มาปรับใช้ 3. โอกาสทางธุรกิจของไทย-มาเลเซีย ซึ่งอุตสาหกรรมอาหารและฮาลาลเป็นหนึ่งในด้านที่ทั้งไทยและมาเลเซียมีศักยภาพร่วมกัน มิใช่เพียงแค่ในระดับทวิภาคี แต่ยังสามาถขยับขยายในระดับภูมิภาคอาเซียน เอเชีย และในระดับโลกอีกด้วย นอกจากนี้ ยังได้ให้ข้อแนะนำที่สำคัญในการร่วมมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย-มาเลเซีย ท่ามกลางความไม่แน่นอนในปัจจุบัน ได้แก่ การสร้างกลไกพัฒนาความเชื่อมโยงและคมนาคมแบบไร้พรมแดน การสร้างความร่วมมือในกลไกอาเซียน โดยเฉพาะด้านกฎระเบียบที่มีผลผูกพันในทุกประเทศสมาชิก การอำนวยความสะดวกทางการค้าข้ามพรมแดนแบบไร้กระดาษ และการสร้างความร่วมมือรูปแบบทวิภาคีของไทย-มาเลเซีย ในระดับภาครัฐ-ภาครัฐ ภาครัฐ-ภาคเอกชน และภาคเอกชน-ภาคเอกชน     

นอกจากนี้ ภายในงาน ยังได้รับฟังความคืบหน้าด้านความเชื่อมโยงบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซียที่สำคัญ ในหัวข้อ “Thailand-Malaysia Cross-Border Physical Connectivity Projects and Emerging Opportunities” รวมถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษ โครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน และโลจิสติกส์ที่มีศักยภาพ เช่น Perlis Inland Port โดยร่วมบรรยายโดยผู้แทนจากหน่วยงานที่สำคัญ ได้แก่ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, Mutiara Perlis Sdn Bhd, Northern Corridor Implementation Authority (NCIA) และ Northern Gateway Group (NGX)

         


 

ข่าวอื่นๆ