เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 นายวิบูลย์ สุภัครพงษ์กุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร (AFC) พร้อมด้วยนายนคร หาญไกรวิไลย์ ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร นางสุวีรยา ปั้นปาน พาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร เกษตรจังหวัด และคณะผู้บริหารจากบริษัท ซีพีแอ็กซ์ตร้า จำกัด ได้ร่วมลงพื้นที่ ณ สหกรณ์ผู้ปลูกมะนาวบ้านแพ้ว ดำเนินสะดวก จำกัด อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นและปัญหาความเดือดร้อนจากเกษตรกรผู้ปลูกมะนาวในพื้นที่ ซึ่งกำลังประสบกับภาวะราคาผลผลิตตกต่ำอย่างรุนแรง
คณะผู้แทนได้เข้าตรวจเยี่ยมกระบวนการคัดแยก ตรวจสอบคุณภาพ และบรรจุมะนาวสด พร้อมทั้งเยี่ยมชมกระบวนการแปรรูปน้ำมะนาวแป้นคั้น 100% ที่ใช้วัตถุดิบจากมะนาวผลสดที่คัดสรรจากสวนโดยตรง นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปเยี่ยมชมแปลงปลูกของตัวแทนเกษตรกรจากสหกรณ์ผู้ปลูกมะนาวบ้านแพ้วฯ รวมถึงวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกมะนาวหนองสองห้อง เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคนิคด้านการผลิต การบริหารจัดการสวน และการคัดเลือกผลผลิตให้ได้ตามมาตรฐานที่ตลาดและผู้บริโภคต้องการ
ภาวะราคามะนาวตกต่ำ ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรอย่างกว้างขวาง จากข้อมูลที่ได้รับ ราคาจำหน่ายมะนาวในพื้นที่ขณะนี้อยู่ในภาวะวิกฤตอย่างแท้จริง อันเนื่องมาจากภาวะผลผลิตล้นตลาด จนทำให้ราคาตกลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมะนาวพันธุ์แป้นบ้านแพ้ว เบอร์ 600 ซึ่งมีขนาดบรรจุ 20 กิโลกรัมต่อกระสอบ มีราคาขายเฉลี่ยเพียง 280 บาท หรือคิดเป็นประมาณ 14 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนการผลิตอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้เกษตรกรได้รับผลกระทบด้านรายได้และขาดสภาพคล่องในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ
หอการค้าไทย เดินหน้านโยบายเร่งช่วยเหลือ พร้อมผลักดันมาตรการเชิงรุก ตามนโยบายของ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย ได้ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นกับการขับเคลื่อนมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาในภาคการเกษตร ซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจฐานรากและคุณภาพชีวิตของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศ โดยมอบหมายให้ศูนย์ AFC ทำหน้าที่เป็นกลไกกลางในการเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง (Modern Trade) เพื่อบูรณาการแนวทางในการสนับสนุนการระบายผลผลิตทางการเกษตรในช่วงวิกฤตอย่างทันท่วงที
ในกรณีของมะนาวบ้านแพ้ว ศูนย์ AFC ได้ดำเนินการประสานความร่วมมือกับบริษัท ซีพีแอ็กซ์ตร้า หอการค้าจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และเกษตรจังหวัด เพื่อร่วมกันรับซื้อมะนาวคุณภาพจากเกษตรกรโดยตรง เพื่อนำไปจำหน่ายในช่องทางที่หลากหลาย อาทิ ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ตลาดสด และช่องทางออนไลน์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรในระยะสั้น และสร้างเสถียรภาพให้กับระบบตลาดในระยะยาว
ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน นอกจากการเร่งระบายผลผลิตในช่วงวิกฤตแล้ว คณะผู้แทนจากหอการค้าไทยยังได้เสนอแนวทางเชิงนโยบายเพื่อรองรับปัญหาในระยะยาว ประกอบด้วยแนวทางสำคัญ ได้แก่
การสนับสนุนราคาจากภาครัฐ – เช่น การจัดซื้อผลผลิตส่วนเกินเพื่อนำไปใช้ในโครงการสวัสดิการของรัฐ หรือกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์
1. การส่งเสริมการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร – โดยสนับสนุนด้านเงินทุน เทคโนโลยี และองค์ความรู้ในการผลิตผลิตภัณฑ์จากมะนาว เช่น น้ำมะนาวพร้อมดื่ม หรือสารสกัดเพื่อสุขภาพ
2. การขยายช่องทางการตลาด – อาทิ การผลักดันตลาดตรงระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค รวมถึงการค้าผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล
3. การจัดตั้งกองทุนประกันรายได้เกษตรกรหรือกองทุนบริหารความเสี่ยงระดับจังหวัด – เพื่อช่วยดูแลรายได้ของเกษตรกรในช่วงที่ราคาผลผลิตผันผวน
4. การจัดอบรมเกษตรกรด้านการวางแผนการผลิตและการบริหารต้นทุน – เพื่อให้สามารถวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และลดความเสี่ยงจากผลผลิตส่วนเกิน
หอการค้าไทย พร้อมเดินหน้าสนับสนุนและเป็นพลังร่วมในการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้มีความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป
