วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย คุณวิบูลย์ สุภัครพงษ์กุล ประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร (ศูนย์ AFC) และ คุณธวัชชัย เศรษฐจินดา กรรมการเลขาธิการ ได้ร่วมงาน AXTRA AGRI-Connext มหกรรมจับคู่ธุรกิจสินค้าเกษตร ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) โดยมี คุณธานินทร์ บูรณมานิต ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มบริษัท และคุณธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจแม็คโคร ประเทศไทย ให้การต้อนรับ
ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้กล่าวเปิดงาน AXTRA AGRI-Connext มหกรรมจับคู่ธุรกิจสินค้าเกษตร ซึ่งหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เราได้กำหนดนโยบาย Unlocking New Growth สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวทีโลก และในประเทศไทยขณะนี้ ด้วยการขับเคลื่อน 5 เสาหลักธุรกิจ (Core Value Chain) ได้แก่ 1) ภาคการค้าและการลงทุน 2) ภาคท่องเที่ยวและบริการ 3) ภาคเกษตรและอาหาร 4) AI, Robot, Digital Technology & Innovation และ 5) Sustainability อย่างไรก็ดี งาน AXTRA AGRI - Connext ได้ให้ความสำคัญกับภาคเกษตร ซึ่งต้องยอมรับว่า ภาคเกษตรและอาหาร นับว่าเป็นภาคธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยมีประชากรที่อยู่ในภาคเกษตร จำนวน 7.8 ล้านครัวเรือน และกำลังแรงงานภาคเกษตรประมาณ 12 ล้านคน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ของไทยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.50 ล้านล้านบาทต่อปี จึงถือว่าภาคเกษตรและอาหารเป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้ที่สำคัญของประเทศ
วันนี้ ภาคเกษตร ยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในด้านรายได้ ผลผลิตและคุณภาพ ด้วยปัจจัยภายในและภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมา หอการค้าไทย ได้มุ่งมั่นสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร โดยส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร ผ่านแนวคิดการแปรรูปและทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงพัฒนาและแก้ไขปัญหาในหลายด้าน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ภาคเกษตรและอาหาร สู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างมั่นคงและเป็นคลังอาหารของโลก
พร้อมทั้ง ยังได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร หรือ AFC โดยมีบทบาทหน้าที่ที่สำคัญเพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ - ล้นตลาดของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทั้ง 28 หน่วยงาน ผ่านความร่วมมือตั้งแต่ระดับราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค และภาคเอกชน อาทิ เกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัด หอการค้าจังหวัด สมาคมการค้าต่างๆ และค้าส่งสมัยใหม่ (Modern Trade) ให้สามารถมีช่องทางการขาย หรือต้องการจะทำ Contract Farming โดยขายให้กลุ่มผู้ค้าส่งสมัยใหม่ ภัตตาคาร ร้านอาหาร หรือโรงงานแปรรูป ซึ่ง กรมการค้าภายใน บ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า และ ห้างค้าปลีกที่มาในวันนี้ เป็นเครือข่ายกำลังสำคัญของศูนย์ AFC ซึ่งได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ-ล้นตลาด โดยคาดว่า ปี 2568 จะมีปริมาณซื้อผลไม้รวมมากกว่าประมาณ 10,000 ตัน ภายใต้โครงการ Thai Fruits Festival 2025 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภค ภัตตาคาร ร้านอาหาร ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ เป็นต้น
ดร.พจน์ฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า การจัดงาน AXTRA AGRI-Connext มหกรรมจับคู่ธุรกิจสินค้าเกษตร ครั้งนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สำคัญที่สะท้อนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยได้เปิดโอกาสให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน จำนวนมากกว่า 80 ราย ได้มีโอกาสจับคู่ธุรกิจกับห้างค้าปลีก-ส่งสมัยใหม่ (Modern Trade) ซึ่งจะเป็นช่องทางในการช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และพัฒนาภาคเกษตรโดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน แก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำและล้นตลาด และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยต่อไป
