ย่อ / ขยาย

หอการค้าไทย ศูนย์ AFC จับมือ กรมการค้าภายใน ร่วมกับ 6 องค์กรภาคเอกชน เดินหน้าปลุกกระแสบริโภคผลไม้ไทย ผ่านโครงการ Thai Fruits Festival 2025

วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 ศูนย์ AFC หอการค้าไทย ร่วมกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์  สมาคมตลาดสดไทย และ 5 ห้างค้าปลีก-ค้าส่งชั้นนำ ประกอบด้วย บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ บจก.เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ บจก.เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า และ บจก.เดอะมอลล์กรุ๊ป จัดงานแถลงข่าว “ความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชนขับเคลื่อน Thai Fruits Festival” เพื่อร่วมกันส่งเสริมการบริโภคและการกระจายผลไม้ไทยภายในประเทศอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยในการรับมือกับความท้าทายด้านตลาด ณ ห้อง Activity Hall สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคเกษตรและอาหาร มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตสินค้าเกษตร และส่งออกไปยังต่างประเทศ นับว่าเป็นฟันเฟืองสำคัญส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการจ้างงาน แต่ด้วยสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้าระหว่างประเทศในปัจจุบัน อาทิ มาตรการภาษีของสหรัฐฯ (US Tariff Policy) ที่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของประเทศ อีกทั้งปัญหาการส่งออกทุเรียนของไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ได้กำหนดให้ผู้ส่งออกต้องแนบรายงานผลการทดสอบ (Test Report) ของสาร Basic Yellow 2 โดยหอการค้าไทย ได้เร่งสื่อสารทำความเข้าใจในพื้นที่เพาะปลูกหลัก พร้อมทั้งประสานกับภาครัฐและหอการค้าจังหวัด เพื่อยกระดับมาตรฐานการส่งออก พร้อมทั้งได้เข้าพบหารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อสร้าง ความเชื่อมั่นและผลักดันทุเรียนไทยสู่ตลาดจีนอย่างยั่งยืน เป็นต้น

ทั้งนี้ หอการค้าไทย ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร (Agriculture and Food Coordination and Public Relations Center : AFC) เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการสื่อสารประสานงาน และแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำอย่างเป็นระบบ โดยที่ผ่านมา ศูนย์ AFC ได้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 11 เดือนแล้ว เพื่อร่วมบรรเทาสถานการณ์และแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ-ล้นตลาดร่วมกับเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชน จำนวน 28 หน่วยงาน โดยในปี 2567 ได้ประสานงานเครือข่ายช่วยรับซื้อสินค้าจากเกษตรกรท้องถิ่นปริมาณถึง 218,356 ตัน คิดเป็นมูลค่า 14,172 ล้านบาท 

ในวันนี้ หอการค้าไทย โดยศูนย์ AFC และเครือข่าย 6 องค์กรภาคเอกชน ได้ร่วมมือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ Thai Fruits Festival 2025 โดยได้จัดทำ “ปฏิทินรับซื้อและกิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ไทย” โดยแต่ละห้างค้าปลีก-ค้าส่ง 5 บริษัทชั้นนำ และสมาคมตลาดสดไทย กรมการค้าภายใน จะร่วมดูแลรับซื้อผลไม้จากเกษตรกร และยังมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันจัดแคมเปญกิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ไทย เพื่อให้สอดคล้องกับฤดูกาลของผลผลิตแต่ละชนิดของผลไม้ และยังเป็นการส่งเสริมประสิทธิภาพในการกระจายผลไม้คุณภาพจากสวนสู่ผู้บริโภคตลอดปี 2568  

นายพจน์ฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงการ Thai Fruits Festival 2025 ไม่เพียงช่วยส่งเสริมและบริหารจัดการปริมาณผลผลิตในตลาด แต่ยังเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรและสร้างโอกาสทางรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่เกษตรกรไทย ด้วยเหตุนี้ หอการค้าไทย โดยศูนย์ AFC กรมการค้าภายใน และภาคีเครือข่าย ขอเชิญชวนสมาชิกผู้ประกอบการ หอการค้าจังหวัด สมาคมการค้าต่าง ๆ และประชาชนร่วมสนับสนุนผลไม้ของเกษตรกรไทย  ด้วยการบริโภคผลไม้ไทยคุณภาพและปลอดภัย โดยสามารถเลือกซื้อได้จากกิจกรรมภายใต้โครงการ  “Thai Fruits Festival 2025” ที่จะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนภาคเกษตรไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ผลการจัดกิจกรรมภายใต้มาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2568 ในกิจกรรมกระจายผลไม้ภายใต้โครงการ Thai Fruits Festival 2025 ปริมาณรวมโดยประมาณ 10,000 ตัน ผลไม้คละชนิด อาทิ มะม่วง ลำไย มังคุด เงาะ ทุเรียน จากภาคต่าง ๆ ทั้งประเทศ โดยแบ่งเป็นกิจกรรมหลัก ๆ ได้แก่

  1. กิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ “Thai Fruits Festival 2025” ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลต่อเนื่องจนถึงช่วงปัจจุบันที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ ร่วมกับห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ได้แก่ ท็อปส์ บิ๊กซี แม็คโคร โลตัส โก-โฮลเซลล์ จำนวน 2,500 ตัน ห้างซูเปอร์ชีป โดยการสนับสนุนชมรมทายาทห้างค้าปลีก-ค้าส่งแห่งประเทศไทย รวมถึงกิจกรรมรณรงค์การบริโภคผลไม้ที่ร่วมกับสมาคมการค้าตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย จำนวน 3 ตลาด (ตลาดไท ตลาดศรีเมือง ตลาดสี่มุมเมือง) และสมาคมตลาดสดไทย จำนวน 12 ตลาด (ตลาดกิเลน ตลาดเยสบางพลี ตลาดมีนบุรี ตลาดรังสิต ตลาดธันยา ตลาดบางใหญ่ ตลาดคุณยิ้ม ตลาดยอดพิมาน ตลาดถนอมมิตร ตลาดใหม่สำโรง ตลาดโอโซนวัน และตลาดบวรร่มเกล้า) 
  2. แจกมะม่วงแฟนซีเป็นของสมนาคุณลูกค้าร่วมกับสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง 4 สถานี (พีที พีทีที บางจาก ซัสโก้) 1,097 สาขา ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล จำนวน 2,000 ตัน 
  3. เชื่อมโยงผลไม้จำหน่ายงานธงฟ้าในส่วนภูมิภาค และผ่านรถโมบายพาณิชย์ ในพื้นที่กรุงเทพฯ 30 จุด
  4. การซื้อผลไม้ของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ธนาคาร บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทขนาดใหญ่ ช่วยรับซื้อผ่าน Pre-Order และกิจกรรมเพื่อสังคม CSR ในการดูดซับผลผลิตเกรดรอง โดยมีการสั่งซื้อแล้วจำนวน 500 ตัน
  5. ขยายช่องทางการจำหน่ายน้ำผลไม้สมูทตี้ผ่าน ตู้เต่าบิน กับ บจ.ฟอร์ท เวนดิ้ง รับซื้อมะม่วง ลำไย สับปะรด ลิ้นจี่ ลองกอง กล้วยหอมทอง ฝรั่ง และชมพู่ ปริมาณรวม 1,000 ตัน 
  6. จับมือกับ บจ.ไทยแอร์เอเชีย แปรรูปทำเป็นเมนูอาหารและเครื่องดื่ม จำหน่ายบนเครื่องบินทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและต่างประเทศ โดยรับซื้อลำไย มังคุด สับปะรดภูแล ปริมาณรวม 1,000 ตัน 
  7. สนับสนุน “บรรจุภัณฑ์ผลไม้ DIT” ร่วมกับไปรษณีย์ไทย ในรูปแบบกล่องไปรษณีย์ขนาด 10 กก. และตะกร้าพลาสติกขนาด 5 กก. ปริมาณรวม 3,000 ตัน

นายวิบูลย์ สุภัครพงษ์กุล ประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร (ศูนย์ AFC) กล่าวว่า ศูนย์ AFC และเครือข่าย 6 องค์กรภาคเอกชน ได้แก่ สมาคมตลาดสดไทย และ 5 ห้างค้าปลีก-ค้าส่งชั้นนำ ประกอบด้วย บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ บจก.เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ บจก.เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล และ บจก.เดอะมอลล์กรุ๊ป ในการส่งเสริมผลไม้ไทยในหน้าฤดูกาล เพื่อแก้ไขปัญหาราคสินค้าเกษตรตกต่ำ-ล้นตลาด ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา อาทิ 

  • ประสานงานรับซื้อผลไม้สดคุณภาพตรงจากกลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์ เพื่อจัดจำหน่ายในร้านค้า ห้างแม็คโครและโลตัส อาทิ รับซื้อมังคุด 1,000,000 กิโลกรัม เข้าสู่แม็คโคร-โลตัส ทั่วประเทศ ช่วยเกษตรกรภาคตะวันออกช่วงปลายฤดูรวมกว่า 2,600 สาขาทั่วประเทศ เป็นต้น
  • ประสานงานรับซื้อผลไม้จากเกษตรกรไทยตลอดปี รวมถึงจัดแคมเปญพร้อมโปรโมชั่นกระตุ้นการซื้อและบริโภคผลไม้ประจำฤดู ร่วมกับ บจก.เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล พร้อมทั้งมีแผนรับซื้อผลไม้ไทยกว่า 8,000 ตันในปี 2568 (หรือเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน) เพื่อส่งเสริมการจำหน่ายผลไม้ไทยจากเกษตรกรผ่านร้านท็อปส์, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ เดลี่ กว่า 690 สาขาทั่วประเทศ รวมถึง “ตลาดจริงใจ Farmers’ Market” จำนวน 32 สาขา 
  • ประสานงานรับซื้อผลไม้ฤดูกาลปลาย อาทิ มังคุด เงาะ และลองกอง เพื่อจำหน่ายผ่านห้าง โก โฮลเซลล์ พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ ภายใต้แนวคิด “เกษตรกรปลูกด้วยใจ คนไทยกินด้วยรัก” โดยจำหน่ายผลไม้คุณภาพในราคาย่อมเยา เพื่อกระตุ้นการบริโภคของประชาชน
  • ประสานงานส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทยตามฤดูกาล และยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยสู่เวทีโลกในฐานะแหล่งผลไม้คุณภาพ ร่วมกับ บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และ บจก.เดอะมอลล์กรุ๊ป 
  • ประสานงานซื้อมังคุดจากเกษตรกรในภาคตะวันออก โดยเฉพาะจากจังหวัดจันทบุรี รวมกว่า 100 ตัน เพื่อนำไปจำหน่ายผ่านร้าน 7-Eleven กว่า 8,200 สาขา ในพื้นที่ 20 จังหวัดทั่วประเทศ 
  • ประสานงานตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทยร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์การบริโภคผลไม้ไทย ด้วยการแจกคูปองส่วนลดสำหรับใช้ซื้อผลไม้ทุกชนิดภายในตลาด ร่วมกับ สมาคมตลาดสดไทย โดยนำร่องขับเคลื่อน 15 ตลาดทั่วประเทศ


สุดท้ายนี้ จากนโยบายและความร่วมมือระหว่างศูนย์ AFC หอการค้าไทย หอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ กรมการค้าภายใน สมาคมตลาดสดไทย และห้างค้าปลีก-ค้าส่งชั้นนำ 5 ราย จะตอกย้ำการขับเคลื่อนโครงการ “Thai Fruits Festival 2025” โดยในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตลำไยจะออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก เราได้เตรียมแผนรับซื้อลำไยจากเกษตรกรทั่วประเทศกว่า 4,000 ตัน โดยมุ่งหวังส่งเสริมและกระจายลำไยคุณภาพจากแหล่งผลิตต่าง ๆ สู่มือผู้บริโภคทั่วประเทศ พร้อมทั้งช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาราคาตกต่ำและผลผลิตล้นตลาด ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการดูแลเกษตรกรไทยอย่างเป็นรูปธรรม

 

ข่าวอื่นๆ